SMART ประกาศงบปี 65 รายได้โตทะลุเป้า 572.28 ล้านบาท
เตรียมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0365 บาท
SMART เผยผลประกอบการ ปี2565 โตทะลุเป้า กวาดรายได้รวม 572.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 38.96 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0365 บาท นโยบายเปิดประเทศหนุน ที่พักอาศัย แนวราบ - แนวสูง โรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ EEC เร่งก่อสร้าง ดันยอดขาย ไตรมาส 1/66 แนวโน้มโตดี ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว ผลักดันกำลังซื้อ ภาคอสังหาฯ เปิดโครงการใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร เร่งปรับปรุง ซ่อมแซม รับตลาดท่องเที่ยว หนุนความต้องการวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาเพิ่มขึ้น
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 2565 มีรายได้รวม 572.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 459.48 ล้านบาท จำนวน 112.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.55 % และมีกำไรสุทธิ 38.96 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.87 ล้านบาท จำนวน 0.90 ล้านบาท หรือลดลง 2.27%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/2565 มีรายได้รวม 162.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 121 ล้านบาท จำนวน 41.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34.14% และมีกำไรสุทธิ 19.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.41 ล้านบาท จำนวน 10.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 110.13 %
ทั้งนี้ผลประกอบการส่วนของรายได้รวมปรับตัวดีขึ้น ปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการใช้สินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาเพิ่มขึ้นจากโครงการภาคอสังหาฯ ที่พักอาศัย ทั้งแนวราบและแนวสูง อีกทั้ง ปริมาณคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากโครงการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และราคาจำหน่ายอิฐมวลเบาปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงและวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลประจำปี 2565 แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.0365 บาท คิดเป็น 102.85% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย จากนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ คิดเป็นจำนวนเงินปันผล 38.01 ล้านบาท ทั้งนี้ รอมติการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนเมษายนอีกครั้ง
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/2566 คาดเติบโตดี ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว โครงการเมกะโปรเจคภาครัฐ โครงการการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC เดินหน้าก่อสร้างตามแผน ขณะเดียวกัน ตลาดวัสดุก่อสร้างเริ่มกลับมาคึกคัก ผลักดันให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์โครงการแนวราบ-แนวสูง เร่งก่อสร้าง เปิดโครงการใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร วางแผนปรับปรุง ซ่อมแซม เพื่อรองรับตลาดการท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้งานและความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาตกแต่งเพิ่มขึ้น ถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตของบริษัท
“บริษัทเดินหน้าตามแผน มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา อิฐมวลเบาตกแต่ง ตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ประหยัดพลังงาน ผลิตภัณฑ์สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ เพื่อรองรับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ใส่ใจในสินค้าเพื่อความยั่งยืนมากขึ้น ควบคู่กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกแนะนำสินค้า ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook , Line@ , Instagram เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เจ้าของบ้าน สถาปนิก ผู้รับเหมา บริษัทรับสร้างบ้าน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ อีกทั้ง ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านกลุ่มโมเดิร์นเทรด ดิลเลอร์ ช่องทางออนไลน์ เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างยอดขายผลักดันรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ “ นายรังสี กล่าว