กลุ่มมิตรผล รับรางวัลผู้นำด้านความยั่งยืนอันดับ 1 ของโลก ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารจาก S&P Global
ก้าวสำคัญแห่งความสำเร็จบนเส้นทางการสร้างความยั่งยืนจากภาคเกษตรสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม
กลุ่มมิตรผล นำโดย นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล ขึ้นรับรางวัล ผู้นำด้านความยั่งยืนอันดับที่ 1 ของโลก ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จากการจัดอันดับผลการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กร หรือ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) Score 2023 และได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในรายงานความยั่งยืน “The Sustainability Yearbook Member 2024” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
ซึ่งกลุ่มมิตรผลได้ก้าวสู่อันดับที่สูงขึ้นในทุกปี จนสามารถคว้าตำแหน่งผู้นำและได้รับผลการประเมินสูงสุดเป็นอันดับ 1 ทั้งผลคะแนนโดยรวมและในมิติสิ่งแวดล้อมและสังคมในปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความตั้งใจและการลงมือทำอย่างจริงจังในการเดินหน้าพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติ โดยมี นายโรเบิร์ต ดอร์เนา (Mr. Robert Dornau) Head of CSA Corporate Engagement S&P Global เป็นผู้มอบรางวัล ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค กรุงเทพฯ
การประเมินความยั่งยืนขององค์กรดังกล่าว มีเกณฑ์การประเมินผลในมาตรฐานเดียวกับ Dow Jones Sustainability Indices(DJSI) ซึ่งใช้ในการประเมินบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทชั้นนำของโลก โดยในปีนี้ มีบริษัททั่วโลกเข้าร่วมการประเมินดังกล่าวกว่า 9,400 บริษัท ใน 62 อุตสาหกรรม ซึ่งกลุ่มมิตรผลได้รับคะแนนรวมสูงสุดเป็นอันดับ 1 (Top 1%) ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร และยังทำคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในมิติสิ่งแวดล้อมและสังคม ผ่านการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนที่โดดเด่น
อาทิ การประกาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) อย่างเป็นทางการกับ Science Based Targets initiative (SBTi) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่กำกับการดำเนินงานด้าน Net Zero รวมถึงมีแผนงานที่ครอบคลุมและปฏิบัติให้เห็นผลได้จริงจากความสำเร็จของอุทยานมิตรผลด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี คอมเพล็กซ์แห่งแรกของประเทศไทยที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Complex) ทั้งยังส่งเสริมเกษตรกรให้มีความรู้ ทักษะการทำเกษตรสมัยใหม่ด้วยการถ่ายทอด “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” องค์ความรู้ที่ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิตอลและนวัตกรรมการบริหารจัดการที่ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และทำการเกษตรได้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งการได้รับรางวัลดังกล่าวสามารถเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของกลุ่มมิตรผลในเส้นทางการขับเคลื่อนองค์กรสู่มาตรฐานความยั่งยืนและความโปร่งใสทัดเทียมกับองค์กรระดับโลก พร้อมผลักดันขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจของภาคเกษตรไทย รวมถึงร่วมเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและดูแลสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน