Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
ซัมมิท โอโต บอดี้ อัดฉีดเกือบ 300 ลบ. ฟื้นฟูโรงงาน
ซัมมิท โอโต บอดี้ ทุ่มงบเกือบ 300 ลบ. ฟื้นฟูโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ พร้อมมุ่งมั่นเป็นบริษัทชั้นนำในด้านเทคโนโลยีการออกแบบ การผลิต และการส่งมอบชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพในระดับสากล เล็งผลประกอบการปี 2555 ปิดที่ประมาณ 23,000 ลบ.
คุณกรกฤช จุฬางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จำกัด เปิดเผยเกี่ยวกับการฟื้นฟูโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากประสบกับวิกฤตมหาอุทกภัยปลายปี 2554 นั้น บริษัทสามารถดำเนินการฟื้นฟูโรงงานให้กลับสู่สภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว และสามารถดำเนินการผลิตได้ภายในเดือนมีนาคม 2555 ทั้งนี้ด้วยเพราะบริษัทยึดหลักในการทำงานเป็นทีม ทั้งผู้บริหารและพนักงานต่างทำงานด้วยความตั้งใจและทุ่มเท จนสามารถกอบกู้สถานการณ์วิกฤตมหาอุทกภัยให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยในปัจจุบันไม่เหลือร่องรอยของความเสียหายจากมหาอุทกภัยในครั้งนั้นเลย ด้วยงบประมาณในการดำเนินการฟื้นฟูเกือบ 300 ล้านบาท
คุณกรกฤช กล่าวต่อว่าจากวิกฤตมหาอุทกภัยในครั้งนั้น ส่งผลให้การผลิตรถยนต์ในต้นปี 2555 ต้องหยุดชะงักลง ในขณะที่ความต้องการรถยนต์ไม่ได้หยุดลงไปด้วย ดังนั้นเมื่อค่ายรถยนต์รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนสามารถดำเนินการผลิตได้ตาม ปกติ ยอดความต้องการต่างๆ ที่เคยอั้นไว้ตั้งแต่ปลายปี 2554 ผนวกกับผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจเรื่องนโยบายรถคันแรกเป็นแรงขับอย่างเยี่ยม ยอดในการกระตุ้นการสั่งซื้อรถยนต์จากผู้บริโภคแบบถล่มทลาย ส่งผลให้ปี 2555 เป็นปีทองของธุรกิจยานยนต์ โดยยอดการผลิตรถยนต์ในปี 2555 นั้นสูงถึง 2.4 ล้านคัน ดังนั้นในปีนี้ 2556 คาดการณ์ว่าด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเรื่องรถยนต์คันแรกที่ปิดตัวลง หรือการผลิตที่กลับมาสู่ภาวะปกติ ยอดขายภายในประเทศอาจจะลดลงประมาณ 7% แต่ยอดการผลิตมวลรวมยังคงเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยอดการส่งออกน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 20%
สำหรับผลประกอบการของ บริษัทในปี 2555 นั้น คุณกรกฤชกล่าวว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของธุรกิจยานยนต์ของประเทศ นั่นคือ บริษัทโตแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกัน คืออยู่ที่ประมาณ 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 50% สำหรับผลประกอบการในปีนี้ 2556 ได้ประมาณการณ์ไว้ว่า ยอดขายน่าจะเติบโตมากกว่า 4%
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจในเชิงบวกนั้น บริษัทได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากภาครัฐมาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่อง นโยบายที่มีทิศทางและชัดเจน เช่น การส่งเสริมให้ประเทศก้าวเข้าสู่การเป็น Detroit of Asia นโยบาย Pick up 1 ton หรือ Eco Car นโยบายรถคันแรก หรือการลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการ อีกทั้งยังมองว่า BOI เป็นจุดแข็งของประเทศไทย ซึ่งสามารถดึงต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ส่วนปัจจัยเชิงลบ หรือจะกล่าวได้ว่าเป็นความท้าทายต่อวงการชิ้นส่วนยานยนต์นั่นคือการเติบโต แบบก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการขาดแคลนแรงงานในอนาคตได้
ในอนาคตนั้นคุณกรกฤชมอง ว่าเป็นยุคที่การแข่งขันจะเข้มข้นถึงขีดสุด ดังนั้นเพื่อเป็นการรับมือกับความเสี่ยงนี้กลุ่มบริษัท ได้มีการแตกไลน์ธุรกิจทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ โดยการเพิ่มไลน์ธุรกิจในด้านต่างๆ อาทิเช่น สนามกอล์ฟ โรงแรม ภัตตาคาร โรงเรียน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง อันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัท ทั้งนี้ภายใต้การบริหารบริษัทจึงมีวิสัยทัศน์ “มุ่งสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี การออกแบบ การผลิต และการส่งมอบชิ้นส่วนยานยนต์ ที่มีคุณภาพในระดับสากล” โดยเฉพาะในด้านการออกแบบเนื่องจากมองว่าการผลิตตามแบบอย่างเดียวนั้นไม่ เพียงพอ หากแต่ภาคธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์จะต้องสามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบรถยนต์ได้ นับตั้งแต่การ ออกแบบ รวมทั้งการพัฒนาชิ้นส่วนต่างๆ แบบครบวงจร ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบดีไซน์พวงมาลัยให้มีรูปโฉมที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น มีการพัฒนาชิ้นส่วน เพื่อนำมาสู่กระบวนการผลิต จนได้พวงมาลัยรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งบริษัทเองในขณะนี้ก็ได้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้า เพื่อนำมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดโดยผ่านกระบวนการ R&D ที่เข้มงวดทุกกระบวนการ
คุณกรกฤช กล่าวต่อถึงนโยบายการปรับค่าแรงขั้น ต่ำเป็น 300 บาทว่า ข้อนี้ไม่ส่งผลกระทบกับบริษัทมากนักเพราะบริษัทเน้นการใช้หุ่นยนต์เสริมแรง งานคน เพราะสามารถควบคุมคุณภาพและ Efficiency ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมรับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคตซึ่งเป็นอีก กลยุทธ์หนึ่งในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
สำหรับการเข้าสู่ AEC ในอนาคตอันใกล้นี้คาดว่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนเป็นอย่างมาก ด้วยการเป็นอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งอีกทั้งยังมีความได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์ ด้วยที่ตั้งของประเทศเป็นศูนย์กลางของการส่งออก รวมทั้งความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภคมากกว่าประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยจะสามารถก้าวต่อไปได้อย่างสง่างามใน อนาคตเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ผู้ประกอบการจะต้องได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากภาครัฐซึ่งสิ่งที่ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนมองว่ามีความสำคัญและจำเป็น เช่น การจัดตั้งศูนย์ทดสอบชิ้นสวนยานยนต์ที่สอดรับกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยียานยนต์หรือการลดขั้นตอนในการดำเนินการขอยื่นเรื่องลดหย่อนภาษี รวมทั้งการเพิ่มประชาสัมพันธ์ในด้าน BOI ให้มากยิ่งขึ้น
Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.
www.themewinter.comMake sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.