กรมประมง โชว์ผลงานจุลินทรีย์ ปม.1 คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2562
กรมประมงได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2562 “Shift to the future : ภาครัฐปรับ อนาคตเปลี่ยน” สาขาบริการภาครัฐ ที่ประสบความสำเร็จ จากผลงานการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 อันเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบสูง ต่อประเทศและทุกภาคส่วน
คุณบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง
คุณบรรจง จำนงศิตธรรม รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า เมื่อเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา กรมประมงได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2562 “Shift to the future : ภาครัฐปรับ อนาคตเปลี่ยน” สาขาบริการภาครัฐ ในผลงานการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 โดยรางวัลเลิศรัฐนี้ ถือเป็นรางวัลเกียรติยศที่ภาครัฐมอบให้กับหน่วยงานราชการ ที่ปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จ และที่สำคัญคือเป็นโครงการในสาขาบริการภาครัฐที่ส่งผลกระทบสูง (High Impact) ต่อประเทศ และทุกภาคส่วน
โดยรางวัลเลิศรัฐ เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของกรมประมง ที่ทำให้เกิดความเขื่อมั่นในเชิงประจักษ์ต่อผลงานว่ามีคุณค่า มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพราะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งในยามปกติ และในยามวิกฤต และที่สำคัญยังสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำในฟาร์ม ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเพราะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (GAP) รวมถึงเชื่อมั่นว่าหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 ทำให้ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำมีควาปลอดภัยจากยาและสารเคมี อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ส่งออกและประเทศผู้นำเข้าสินค้าอันส่งผลต่อรายได้ประชาชาติ
“การได้รับรางวัลดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการยกระดับคุณภาพการให้บริการที่ประสบความสำเร็จ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพราะเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจและช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ของกรมประมงในการปฏิบัติงาน ในการกระตุ้นให้มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำหน้าที่ให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญยังทำให้เกษตรกรผู้เพราะเลี้ยงสัตว์น้ำมีความเชื่อมั่นต่อกรมประมงอีกด้วย” คุณบรรจงกล่าว
ทั้งนี้รางวัลเลิศรัฐ เป็นผลมาจากการดำเนินโครงการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 ซึ่งเป็นภารกิจด้านหนึ่งที่สำคัญของกรมประมงที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง ในการส่งเสริม ให้ความรู้ และให้บริการเกษตรกรเพื่อประกอบอาชีพการเพราะเลี้ยงสัตว์น้ำจนประสบความสำเร็จ มีความมั่นคงและมีรายได้ที่ดีขึ้น แต่ที่ผ่านมาการเพราะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ประสบปัญหาความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม เนื่องมาจากการสะสมของปริมาณอินทรีย์สารจากการขับถ่ายของสัตว์น้ำ และจากกิจกรรมอื่นๆ ในพื้นที่และแหล่งน้ำที่ใช้ในการเพราะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร จึงส่งผลให้เกิดความยากลำบากต่างๆ ทั้งจากโรคสัตว์น้ำ ผลผลิตสัตว์น้ำที่ตกต่ำ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และยังทำให้เกษตรกรหันไปใช้ยาและสารเคมีจนเกินความจำเป็นอีกด้วย
คุณบรรจง ยังกล่าวต่ออีกว่า กรมประมงมีการดำเนินการศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร จนได้หัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 ที่มาจากการศึกษาวิจัยซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อเกษตรกรได้จริง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายอินทรีย์สารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถช่วยในการปรับปรุงคุณภาพน้ำให้เหมาะสมต่อการดำรงชีพของสัตว์น้ำ ซึ่งช่วยในการส่งเสริมให้สัตว์น้ำมีสุขภาพแข็งแรง และในทางอ้อมยังช่วยให้เกษตรกรลดการใช้ยาและสารเคมีลง ตลอดจนลดพลังงานในการเปลี่ยนถ่ายน้ำในระบบการเพราะเลี้ยงอันเป็นการลดต้นทุนการผลิตและเสริมสร้างคุณภาพสินค้าสัตว์น้ำให้ปลอดจากการใช้ยาและสารตกค้างในผลิตภัณฑ์
ยิ่งไปกว่านั้นหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 ได้รับการตอบรับจากเกษตรกรผู้เพราะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นอย่างดี และแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันกรมประมงได้มีการนำหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 ไปแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ของกรมประมง ซึ่งเป็นโครงการตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งยังขยายหน่วยงานรับผิดชอบ ในการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ ปม.1 จาก 1 หน่วยงานคือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพราะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เขต 2 (สมุทรสาคร) เป็น 24 หน่วยงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัด กองวิจัยและพัฒนาการเพราะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล กองวิจัยและพัฒนาสุขภาพสัตว์น้ำ กองวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำ และกองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ ครอบคลุมพื้นที่ 21 จังหวัดชายฝั่งทะเล
คุณบรรจง กล่าวเพิ่มเติมถึงรางวัลอื่นๆ อีกว่า กรมประมงยังได้รับรางวัลอีกหลายรางวัล อาทิ รางวัลบริการภาครัฐ ระดับดีเด่น ประเภทบูรณาการข้อมูลเพื่อการบริการ, รางวัลบริการภาครัฐ ระดับดี ประเภทนวัตกรรมการบริการ, รางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ระดับดี ประเภทรางวัลสัมฤทธิผลประชาชน, รางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ระดับดี ประเภทรางวัลผู้นำหุ้นส่วนความร่วมมือ ซึ่งรางวัลดังกล่าวที่ได้รับ แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ของกรมประมง ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทรัพยากรสัตว์น้ำไทย และอุตสาหกรรมประมงไทยได้เป็นอย่างดี
สำหรับการดำเนินงานในปีต่อไป คุณบรรจงเปิดเผยว่า กรมประมงมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นถึงการตอบสนองตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่เกษตรกรและชาวประมง รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ของประเทศคือ เพื่อให้การทำงานสามารถครอบคลุมและครบถ้วน โดยการบริหารราชการต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของเกษตรกร หรือชาวประมง รวมทั้งเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อีกทั้งมีความคุ้มค่าในเชิงภารกิจแห่งรัฐ และการลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน