“เลนโซ่” เปิดแผนธุรกิจปี 63
เลนโซ่เผยแผนการดำเนินธุรกิจปี 2563 เน้นบุกตลาดต่างประเทศ พร้อมเตรียมเปิดตัวยางรถยนต์ สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ “เลนโซ่” อย่างเป็นทางการ เสริมแกร่งแบรนด์คุณภาพหวังดันยอดขายเพิ่ม พร้อมตอกย้ำความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจครบรอบ 30 ปี ชูมาตรฐานสากลการันตีความเชื่อมั่นลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
คุณสรรชัย บุญทวีกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด
คุณสรรชัย บุญทวีกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2563 ว่า “บริษัทมีนโยบายเน้นบุกตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด (Anti-Dumping Duty : AD) จากประเทศจีน เนื่องจาก จีนมีมาตรการสนับสนุนผู้ส่งออกด้วยการคืนภาษี 17% ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ สูญเสียโอกาสทางการแข่งขัน ทั้งนี้ ในอดีตจะมีกลุ่มประเทศในโซนยุโรปที่มีมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด (Anti-Dumping Duty : AD) แต่ปัจจุบันคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นในหลายๆ โซน ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งเน้นในโซนนี้เป็นหลักเพื่อเข้าไปทำตลาดอย่างต่อเนื่อง”
ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันตลาดโซนยุโรปถือเป็นอันดับหนึ่งของเลนโซ่อยู่แล้ว โดยเฉพาะประเทศเยอรมนี ดังนั้น สิ่งที่จะทำต่อเนื่องคือไปเปิดตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เช่น ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกประเทศที่เริ่มใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด (Anti-Dumping Duty : AD) นอกจากนี้ยังรวมไปถึงตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด (Anti-Dumping Duty : AD) จากประเทศจีนเช่นเดียวกัน อีกทั้ง ยังมีปัจจัยในเรื่องของความไม่แน่นอนของตลาด จึงทำให้ลูกค้ามองหาซัพพลายเออร์ (Supplier) รายใหม่ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายมีความได้เปรียบ ดังนั้นบริษัทจึงมองเห็นโอกาสโดยการเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากนโยบายที่เน้นบุกตลาดต่างประเทศ บริษัทคาดหวังว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 50 : 50 เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ดร๊อปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวลดลงด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะวางแผนการเติบโตภายในประเทศอย่างที่อยากจะให้เป็นได้ สำหรับรูปแบบการส่งออกต่างประเทศของบริษัทมีอยู่ 2 รูปแบบ ทั้งส่งออกภายใต้แบรนด์เลนโซ่ และการรับจ้างผลิต (OEM)
ทั้งนี้ นอกจากตลาดที่บริษัทจะเข้าไปทำตลาดเพิ่มแล้ว ยังมีตลาดที่แบรนด์เลนโซ่มีความแข็งแรงเป็นทุนเดิม เช่น ประเทศออสเตรเลีย หรือโซนเอเชียทั้งหมด อาทิ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น ดังนั้น จึงจะเน้นนโยบายในการบุกตลาดเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจะนำความสำเร็จจากการทำตลาดในเมืองไทยไปดำเนินการต่อในแต่ละประเทศ
“ปัจจุบันตลาดต่างประเทศเราทำในลักษณะพรีเมียมแบรนด์ หรือสินค้า high-end ซึ่งกลุ่มนี้เราสามารถขยายตลาดต่อได้ และกลุ่มประเทศโซนเอเชียเราเข้าไปทำตลาดยาวนานถึง 30 ปี จึงทำให้แบรนด์เลนโซ่ค่อนข้างแข็งแรง และมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ประกอบกับกับสินค้าไม่ได้จำหน่ายเป็นจำนวนมากเหมือนที่ประเทศไทย จึงทำให้แบรนด์เราอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าราคาแพงถึงพรีเมียม โดยยอดส่งออกในต่างประเทศอันดับต้นๆ ของบริษัท คือ ประเทศมาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย” คุณสรรชัยกล่าว
คุณสรรชัย กล่าวต่อว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมที่ 1,500 ล้านบาท ส่วนในปี 2563 พยายามที่จะรักษาระดับให้ได้ใกล้เคียงกับปี 2562 โดยตลาดหลักในการทำธุรกิจของเลนโซ่ คือ การส่งสินค้าให้กับลูกค้า หรือดีลเลอร์กว่า 1,800 รายทั่วประเทศ ส่วนตลาดรองลงมา ได้แก่ ค่ายรถยนต์แต่เป็นลักษณะแบบลิมิเตท อิดิชั่น และการรับจ้างผลิต (OEM) ของค่ายรถยนต์ต่างประเทศ ซึ่งบริษัทจะกำหนดแนวโน้มตลาดและออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกๆ เดือน แต่สินค้าจะมีความแตกต่างออกไป ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีสินค้าที่หลากหลายตอบสนองในทุกๆ ตลาด
ส่วนแผนการตลาดในประเทศไทยปี 2563 โดยก่อนหน้านี้เลนโซ่ทำธุรกิจยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์ไรเดน (Raiden) โดยนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่ในปีนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างเป็นทางการ คือ “ยางรถยนต์” ภายใต้แบรนด์ “เลนโซ่” มีทั้งหมด 2 ซีรีส์ สำหรับรถเก๋ง และสำหรับรถกระบะออฟโรด (Off Road) ซึ่งเป็นลายยางรถยนต์ที่ไม่เหมือนใคร โดยบริษัทจะออกแบบใหม่ทั้งหมด และเป็นกลุ่มสินค้าระดับกลาง-บน เน้นเรื่องของคุณภาพและงานดีไซน์เป็นหลัก โดยมีแผนที่จะเปิดตัวในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563
ส่วนวัตถุประสงค์ในการเปิดตัวสินค้าใหม่ดังกล่าว ถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ เพราะปัจจุบันเลนโซ่มีความโดดเด่นทางด้านล้อแม็กอยู่แล้ว ดังนั้นจึงคิดว่าตลาดยางรถยนต์เป็นอีกหนึ่งตลาดที่บริษัทสามารถเข้ามาทำตลาดได้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร พร้อมทั้งเสริมตัวเลขการขายให้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเบื้องต้น คาดว่าจะมีกำลังผลิต 30,000 เส้นต่อเดือน และมั่นใจว่าภายในปีนี้จะเห็นผลตอบรับที่ชัดเจน เนื่องจากเลนโซ่ไม่ได้เป็นน้องใหม่ในตลาดยางรถยนต์ เพียงแต่ในปีนี้สิ่งที่ใหม่คือการเปิดตัวภายใต้แบรนด์ของเลนโซ่เอง
คุณสรรชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจครบรอบ 30 ปี โดยในแง่ของการเติบโตของเลนโซ่ วีล ตนมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ขณะที่ตลาดที่ประเทศเยอรมนีถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมาโดยตลอด เนื่องจากในประเทศเยอรมันจะมีมาตรฐาน TUV Certification ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดมาก ดังนั้น จึงทำให้สินค้าของเลนโซ่ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก นอกจากนี้ ในขั้นตอนการผลิต โดยวัตถุดิบของบริษัทจะต้องนำเข้ามาจากประเทศดูไบ และเป็นพรีเมียมเกรด 100% จึงทำให้สินค้าที่ได้มีคุณภาพสูง
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลอื่นๆ ที่สามารถการันตีความเชื่อมั่นของลูกค้า อาทิ มาตรฐาน IATF 16949 ที่พัฒนามาจากมาตรฐาน ISO/TS 16949 และปัจจุบันได้ดำเนินการยื่นขอการรับรองมาตรฐาน ISO : 14000 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา โดยคาดว่าจะผ่านและได้รับการรับรองภายในปีนี้
ด้านจุดเด่นหลักๆ ของสินค้าเลนโซ่ ประกอบด้วย 1. แบรนด์มีความแข็งแกร่ง เพราะบริษัทได้ทำตลาดมาโดยตลอดระยะเวลา 30 ปี อีกทั้งในแง่ของการสื่อสารกับลูกค้าบริษัททำได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน 2. ดีไซน์ โดยบริษัทมีทีมดีไซน์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการทำวิจัยอย่างต่อเนื่อง และ 3. เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยบริษัทได้มีการพัฒนาในทุกๆ ปี เช่น การเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเสริมแกร่งคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เพิ่มเครื่องเอกซเรย์ (X-rays Machine) ซึ่งช่วยในการตรวจจับข้อผิดพลาดของล้อที่ตาเปล่ามองไม่เห็นได้ 100% โดยสิ่งเหล่านี้ทำให้เลนโซ่เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้อย่างยาวนานถึงตลอด 3 ทศวรรษ