เจเอเอส แอสเซ็ท บุกอมตะนคร เปิด “แจสวิลเลจ อมตะ ชลบุรี”
เจเอเอส แอสเซ็ท เปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 4 “แจสวิลเลจ อมตะ ชลบุรี” เป็นแลนด์มาร์คของการช้อปปิ้งสู่วิถี New Normal ดึงร้านค้าพันธมิตรเข้าร่วม หนุนอัตราเช่าพื้นที่กว่า 95% เร่งจัดแกรนด์โอเพนนิ่งต่อไตรมาส 4/2563 นี้
คุณสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J
คุณสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา เจเอเอส ได้เปิดให้บริการศูนย์การค้า “แจสวิลเลจ อมตะ ชลบุรี : JAS Village Amata-Chonburi” คอมมูนิตี้มอลล์แหล่งที่ 4 ของเจเอเอส จากความสำเร็จในการพัฒนาที่ดินทำเลนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของการช้อปปิ้งสู่วิถี New Normal ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชุมชน โดยร่วมจับมือกับพันธมิตหลายธุรกิจชั้นนำ ทั้งร้านค้าและร้านอาคาร ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) สูงถึง 95% แล้ว
จากสถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่งพฤติกรรมผู้บริโภคให้เปลี่ยนแปลงไป โดยเจเอเอสมองเทรนด์ศูนย์การค้าชุมชนเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ได้อานิสงส์ เนื่องจากผู้บริโภคหันมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันที่เข้าถึงได้ง่าย เดินทางสะดวก ใกล้บ้าน ใกล้แหล่งชุมชน และมีร้านค้าคอยให้บริการอย่างครบครัน อีกทั้ง ด้วยคอนเซ็ปต์ศูนย์การค้าแบบเปิด หรือ Open Air ออกแบบมาให้เปิดรับกับลมธรรมชาติ ลดการแพร่ระบาดในช่วงสถานการณ์ที่ต้องเว้นระยะห่าง จะเป็นการสนับสนุนภาพรวมกำลังซื้อในศูนย์การค้าของบริษัทให้มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะเป็นเทรนด์ที่ตอบรับกับสังคมยุคใหม่ในอนาคตได้
09:17:28
“นี่คือจังหวะที่ดีในการขยายการลงทุน เพราะเรามองการเติบโตมันไม่ได้กระจุกตัวอยู่แค่กรุงเทพฯ แต่กระจายออกไปตามแหล่งชุมชนสำคัญรอบๆ ตามโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่มีการขยายการลงทุน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งที่มีกำลังซื้อสูง บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสจึงขยายคอมมูนิตี้มอลล์ แจสวิลเลจ อมตะ ชลบุรี ตามแผนที่วางไว้ ให้เป็นศูนย์การค้าชุมชนแห่งที่ 4 ของบริษัท และเราก็ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรร้านค้าเป็นอย่างมาก โดยเราเชื่อว่าการเปิดคอมมูนิตี้มอลล์เพิ่มนี้จะสร้างฐานการเติบโตของรายได้ในธุรกิจพื้นที่เช่าให้บริษัทได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ เจเอเอสได้เตรียมจัดงานใหญ่แกรนด์โอเพนนิ่งครบทุกร้านชั้นนำ ในช่วงต้นไตรมาส 4/2563 นี้ด้วย” คุณสุพจน์กล่าวทิ้งท้าย
คุณสุพจน์ กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 165.1 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 5.7 จากรายได้ค่าเช่าปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทมีการปิดสาขา IT Junction ทำให้ผลการดำเนินงานไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้อื่นๆ อีก 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของเงินสนับสนุนทางการตลาด อีกทั้งยังมีการทําสัญญาซื้อขายและโอนคอนโดมิเนียมภายใต้โครงการ Newera ไปแล้วกว่า ร้อยละ 70 ของจํานวนห้องทั้งหมด
ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 16.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.1 ล้านบาท หรือโตร้อยละ 3,202.8 กําไรขั้นต้นอยู่ที่ 111.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 426 จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 21.2 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนค่าเช่าที่ลดลงซึ่งเป็นผลจากมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่มีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ บริษัท มีการบันทึกการขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในไตรมาสที่ 1/2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากการปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 จํานวน 55 ล้านบาท