ทีทีดับบลิวตอกย้ำความสำเร็จคว้ารางวัล “Thailand Top Company Awards 2015”
ทีทีดับบลิวโชว์ผลงานเยี่ยมรับรางวัล “Thailand Top Company Awards 2015” พร้อมเดินหน้าผุดโรงผลิตน้ำประปาแห่งใหม่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000 ลบ.
คุณชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด(มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตน้ำประปาภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้รับรางวัล “Thailand Top Company Awards 2015” ซึ่งจัดโดยนิตยสาร Business+ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อมอบรางวัลให้แก่บริษัทที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดของประเทศ
สำหรับรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่มอบให้กับบริษัทที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในแต่ละกลุ่มบริษัท โดยแบ่งตามประเภทการดำเนินธุรกิจ ซึ่งคัดเลือกจากบริษัทที่มีรายได้สูงสุด 1,000 อันดับแรก โดยรางวัลที่ TTW ได้รับในครั้งนี้ จัดอยู่ในประเภท Energy & Natural Resource แสดงถึงความเป็นองค์กรธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดของประเทศในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค ซึ่งปัจจุบัน TTW คือ “ผู้ผลิตน้ำประปาภาคเอกชนที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดของประเทศ” ให้บริการในพื้นที่สมุทรสาคร-นครปฐม และปทุมธานี-รังสิต
ด้านแผนการลงทุน เมื่อต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาแห่งใหม่ ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าโรงผลิตน้ำประปาแห่งใหม่จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถให้บริการน้ำประปาได้ตามความต้องการของผู้ใช้น้ำในจังหวัดสมุทรสาครอย่างเต็มที่
“โรงงานแห่งใหม่ของเราจะสามารถผลิตน้ำได้ 1 แสนคิวต่อวัน และยังสามารถขยายกำลังการผลิตน้ำประปาเพิ่มได้ตามความต้องการสูงสุดถึง 4 แสนคิวต่อวัน ซึ่งจะทำให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำประปาอย่างเต็มพิกัด รวมทั้งสอดคล้องตามเป้าหมายที่เราได้ตั้งเอาไว้ คือ สะอาด เพียงพอ ต่อเนื่อง” คุณชัยวัฒน์ กล่าว
คุณชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการผลิต นับเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยที่สุดเท่าที่มีในประเทศไทย คือเทคโนโลยีเมมเบรน (Membrane Technology) ประเภท Ultra Filtration เนื่องจากน้ำดิบที่อยู่ใกล้เขตชุมชนอาจด้อยคุณภาพและมีน้ำเสียมาเจือปน ดังนั้นจึงต้องมีตัวกรองที่ทำให้การผลิตน้ำประปาออกมาเป็นน้ำประปาที่มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นแผนงานที่บริษัทได้เตรียมไว้รองรับการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจไทยในอนาคต
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทไม่ได้หยุดการพัฒนาทั้งด้านองค์ความรู้และประสบการณ์ของทีมงาน ประกอบกับบริษัทมีสถานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงได้รับการเชิญชวนจากประเทศเมียนมาร์ให้ไปลงทุนผลิตน้ำประปาในเมืองมะละแหม่ง ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ซึ่งจะเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ครั้งแรกที่บริษัทในประเทศไทยไปดำเนินการด้านสาธารณูปโภคผลิตน้ำประปาในประเทศเมียนมาร์
คุณชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ด้านเป้าผลประกอบการในปี 2558 ตั้งเป้าที่จะเติบโต 10% จากปี 2557 ที่มีผลประกอบการอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท และตั้งเป้ากำไรเกือบ 3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ด้านหลักการบริหารจะให้ความสำคัญกับคุณค่าขององค์กรและต้องรักษาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป ในขณะเดียวกันต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีเพื่อให้สามารถพัฒนาไปได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารงาน เงิน และคน ซึ่งเป็นหัวใจในการบริหารจัดการโดยองค์รวมอย่างต่อเนื่องในการเติบโตขององค์กร