December 28, 2024
01Top_Nine-Plus

เค-เน็กซ์ รุกขยายสาขา “Otteri Wash & Dry” อย่างต่อเนื่อง

User Rating: 2 / 5

Star ActiveStar ActiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

เค-เน็กซ์ รุกขยายสาขา “Otteri Wash & Dry” อย่างต่อเนื่อง

          เค-เน็กซ์ จับมือพาร์ทเนอร์เดินหน้าขยายสาขาร้านสะดวกซัก Otteri  Wash & Dry เพิ่ม 340 สาขาภายในสิ้นปีนี้ เผยแผนงานปี 2567 มุ่งรักษารายได้ในประเทศเทียบเท่าปี 2566 คาดจะเติบโตอีก 10% เตรียมเปิดสาขาใหม่ในกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่ม 15-20 สาขาตลอดทั้งปี พร้อมแตกไลน์ธุรกิจเพื่อสังคม “ชูมณี” เดินหน้าสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับสังคมส่วนรวม

          คุณกวิน นิทัศนจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ Otteri Wash & Dry กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท ปตท.น้ำมันและค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในการขยายสาขาร้านสะดวกซัก Otteri Wash & Dry ไปยังพื้นที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้นทั้งในและนอกประเทศ โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเพิ่มจำนวนสาขาเป็นจำนวนกว่า 340 สาขาภายในปี 2566

          ขณะนี้ บริษัทได้ขยายสาขาร้านสะดวกซัก Otteri Wash & Dry ครอบคลุมเกือบทั้งประเทศไทยแล้ว เหลือเพียงจังหวัดอำนาจเจริญเท่านั้นที่ยังไม่ได้เปิด โดยรูปแบบการเปิดสาขา จะเป็น 1 ต่อ 3 สาขา ซึ่งเป็นร้านสาขาของบริษัทลงทุนเอง 1 สาขา และเป็นแฟรน์ไชส์ 3 สาขา โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดประมาณ 1,055 สาขา ซึ่งจะเป็นสาขาของบริษัทเอง 300 สาขา และสาขาแฟรน์ไชส์ 755 สาขา 

          โดยในปี 2567 บริษัทได้วางแผนการดำเนินงานแยกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 1.ภายในประเทศ โดยจะพยายามรักษายอดรวมรายได้ (Maintain the Gross) ของบริษัทให้ได้เทียบเท่ากับปี 2566 คือ ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท และคาดว่าในประเทศอาจจะโตเพิ่มขึ้นอีก 10% 2.ขยายไปยังต่างประเทศ โดยปัจจุบันประเทศหลักที่ได้ดำเนินการเปิดสาขาไปแล้ว 1 สาขา คือ ประเทศกัมพูชา และจะดำเนินการเปิดสาขาใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดสาขา 2 ได้ภายในสิ้นปี 2566

           อีกทั้ง ตลอดทั้งปี 2567 บริษัทตั้งเป้าจะเปิดสาขาในประเทศกัมพูชาเพิ่มอีกประมาณ 15-20 สาขา และในอนาคตมีโอกาสที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่มองอยู่ตอนนี้ คือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งจะมีแผนการดำเนินงานแตกต่างกันออกไป เช่น ในกัมพูชา ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ คือ พีทีที กัมพูชา ส่วนในบางประเทศจะให้สิทธิ์ในการเป็น มาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) 

          ขณะเดียวกัน จะมีกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับแผนการเปิดแฟรน์ไชส์ใหม่ของลูกค้า โดยจัดทำโปรโมชันต่างๆ ร่วมกับพาร์ทเนอร์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ร่วมกับทรูมันนี่วอลเล็ต หรือร่วมกับในเครือต่างๆ ที่ไม่ใช่ Financial Sector โดยจะเป็น Real Sector อย่างแท้จริง เช่น เป็นพันธมิตรกับกลุ่มบริษัท CRG (กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จํากัด) เพื่อจำหน่ายกาแฟแบรนด์ อาริกาโตะ (Arigato) เนื่องจากบริษัทได้เน้นพัฒนาธุรกิจให้เป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น รวมถึง ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทในเครือ OR

          คุณกวิน กล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งที่ตนได้เน้นย้ำกับพนักงานของบริษัทอยู่เสมอว่าการทำงานไม่ใช่ทำเพื่อรับเงินเพียงอย่างเดียว สุดท้ายแล้วเราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบแทนกลับสู่สังคม ดังนั้นจึงได้เปิดบริษัทขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “ชูมณี” ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ปัจจุบันชูมณีได้ให้การดูแลคนอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่

          1. กลุ่มผู้สูงอายุ โดยบริษัทสร้างงานให้ผู้สูงวัยได้ซัก อบ พับผ้า ผ่านโครงการชูมณี และโครงการ Wash & Share ซักเพื่อให้ เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนผู้วัยให้มีรายได้ 2. กลุ่มคนไร้บ้านและคนจนเมือง โดยได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และมูลนิธิกระจกเงา ในการนำรถซักผ้าเคลื่อนที่ Laundry Move ชื่อ “สดชื่อสถาน” เพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านในด้านสุขอนามัย ปัจจุบันมีผู้คนมาใช้บริการจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คนกลุ่มนี้กลับมามีบ้านอีกครั้งปัจจุบันมีจำนวนถึง 36 คน

          3. กลุ่มผู้พ้นโทษ บริษัทได้ช่วยสร้างเสริมอาชีพให้แก่พวกเขา โดยเป็นงานที่ไม่ได้ติดต่อกับผู้คนมากนัก เช่น ซักผ้า รีดผ้า และทำกาแฟ ปัจจุบันได้ร่วมกับทัณฑสถานหญิง จ.เชียงใหม่ เปิดสอนงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้ง ยังได้ร่วมกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ในการจัดทำโครงการด้วยเช่นกัน

          คุณกวิน กล่าวถึงสิ่งที่อยากฝากกับลูกค้าของร้านสะดวกซัก Otteri Wash & Dry ว่า ประกอบด้วย 2 ส่วน โดยในส่วนแรก คือ ลูกค้าแฟรนไชส์ บริษัทจะยังไม่หยุดพัฒนาโดยเฉพาะในเรื่องของมาตรฐานการให้บริการ เพื่อที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง รวมทั้ง ตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุน และจะพยายามพัฒนา Branding เพื่อให้เข้าไปอยู่ในอันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภคให้ได้

          ขณะเดียวกัน สำหรับผู้บริโภค อยากจะเน้นย้ำว่าบริษัทยังยึดอยู่ถือในด้านความสะอาด ความสะดวก และความสบาย ตนอยากจะบอกว่าถ้ามาซักผ้าที่ร้านของเรานั้นไม่ใช่แค่ว่าจะได้เสื้อผ้าที่สะอาดกลับไป แต่สุดท้ายแล้วสังคมจะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยโครงการต่างๆ ที่บริษัทดำเนินการเพื่อสังคมนั้นบริษัทได้สร้างการรับรู้ผ่านการประชาสัมพันธ์ทั้งในออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบอย่างทั่วถึง

Page Visitor

013134015
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
22669
6655
127670
436529
505277
13134015
Your IP: 18.118.166.45
2024-12-28 12:45
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.