เปิดแผนธุรกิจ ”ฮาชิ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ ซัพพลาย”
“ฮาชิ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ ซัพพลาย” เผยทิศทางการดำเนินงานปี 2566 สดใส โดยได้รับงานจากลูกค้าตั้งแต่ต้นปี หนุนเป้ารายได้ปีนี้แตะ 70 ลบ. ชูจุดเด่นการันตีความเชื่อมั่นลูกค้า ด้วยผลงานคุณภาพโดยทีมงานวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ทำงานยาวนาน ราคาคุ้มค่าเหมาะสมกับเงินที่ลูกค้าจ่าย การบริการที่เป็นเลิศ พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนองค์กรเติบโตสู่ปีที่ 9 โดยยึดมั่นลูกค้าเป็นหลัก บวกการดูแลและใส่ใจพนักงานทุกคนให้มีความสุขในการทำงาน และมีรายรับคุ้มค่ากับการทำงาน
คุณศักดา ทะกันจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาชิ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด
คุณศักดา ทะกันจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาชิ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด กล่าวว่า บริษัทก่อตั้งในปี 2557 โดยขอบข่ายการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย การออกแบบ ผลิตเครื่องจักรสำหรับการบำบัด มลพิษทางอากาศ เช่น กลิ่น ฝุ่น ควัน ละอองน้ำมัน, ระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม, ระบบไลน์ชุบเคมี, Electrical Power System, Electrical Control System, ผลิตถังบรรจุ วัสดุ SUS, PP, PVC, PE, CPVC, งานซ่อมแซม ปรับปรุงแก้ไข และบำรุงเครื่องจักรกลที่ใช้ในอุตสาหกรรม
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 จะยังคงเน้นงานที่มีความถนัดและมีความเชี่ยวชาญ โดยปัจจุบัน บริษัทได้รับโอกาสจากลูกค้าให้ดำเนินการสร้างระบบไลน์ชุบเอง ซึ่งแต่เดิมลูกค้าจะสั่งโดยตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ หากบริษัทสามารถดำเนินการได้ดี ในอนาคตลูกค้าจะมอบความไว้วางใจให้เป็นบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบงานดังกล่าวต่อไป
“ลูกค้าของเราจะรับงานจากเด็นโซ่ ประเทศไทย ซึ่งเป็นอะไหล่รถยนต์ โดยส่วนมากจะเป็นชิ้นส่วนประกอบในรถยนต์ และเราได้รับโอกาสจากลูกค้าให้เป็นผู้สร้างไลน์ชุบ พร้อมทั้ง นำไปติดตั้งในโรงงานของลูกค้า เราได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา มูลค่างาน 10 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นโอกาสดีของเราที่จะสร้างฝีมือและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า รวมถึง การสร้างโอกาสในการเติบโตมากยิ่งขึ้นในอนาคต” คุณศักดากล่าว
ขณะเดียวกัน ในช่วงกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 บริษัทได้รับงานผลิต Jig หรือ Hanger จับชิ้นงาน ทั้งในรูปแบบแขวนด้วยตะขอ (Jig) และแบบถังหมุน (Barrel) จากลูกค้าที่บริษัทได้เข้าไปติดตั้งไลน์ชุบที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น 3 ราย ประมาณ 300-400 ชิ้น ราคา 10,000-15,000 บาทต่อชิ้น มูลค่ารวม 6 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 2-3 เดือน
ต่อจากนั้น ในเดือนเมษายน 2566 บริษัทได้รับงานจากโรงงานที่บริษัทดูแลอยู่ โดยลูกค้าได้มีการปรับเปลี่ยนถังชุบใหม่ เนื่องจากถังชุบเดิมผุพัง มูลค่างาน 3-4 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปี 2566 บริษัทยังมีโอกาสที่จะได้รับงานอื่นๆ ได้แก่ งานที่ดำเนินการเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะมีเข้ามาต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น งานอะไหล่ เป็นต้น
ทั้งนี้ จากปริมาณงานที่ได้รับต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี บริษัทคาดการณ์รายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับผลประกอบการปี 2565 ที่ผ่านมา โดยจะโฟกัสกลุ่มลูกค้าในกลุ่มยานยนต์ เป็นหลัก รวมถึง การมองหากลุ่มลูกค้ารายใหม่ควบคู่กันไป อาทิ ลูกค้าที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนถังชุบไลน์ใหม่ และลูกค้าที่มีความต้องการซ่อมและบำรุงรักษาถังชุบไลน์ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ในปี 2566 บริษัทมีเป้าหมายที่จะไม่รับงานก่อสร้าง เนื่องด้วยข้อจำกัดในเรื่องแรงงานที่หายากมาก ประกอบกับ ปัจจุบันบริษัทยังมีงานที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จที่เขื่อนอุบลรัตน์
“ปัจจุบัน ลูกค้าหลักของเราจะอยู่ในกลุ่มยานยนต์เป็นหลัก โดยครองสัดส่วนรายได้สูง 80-90% ทั้งนี้ ในกรณีที่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเรา เนื่องจากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์มีความต้องการชุบอุปกรณ์รถยนต์ที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ ลูกค้าหลักของเราจะไม่มีการย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น แต่จะไปลงทุนไปสร้างโรงงานใหม่ในประเทศอื่นๆ แทน จึงทำมีโรงงานชุบอยู่ทั่วโลก ทั้งแม็กซิโก อินเดีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นข้อดีของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีฐานการผลิตที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลก
เราจะไม่ได้รับงานโดยตรงจากค่ายรถยนต์ แต่เราจะซัพพลายจากลูกค้าของเราที่รับงานผลิตสินค้าให้แก่ค่ายรถยนต์เกือบทุกค่ายในประเทศไทย หรือ เราเป็น Tier 3 ในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งนับเป็นข้อดีในการดำเนินธุรกิจ สิ่งที่เราจะต้องดำเนินการ คือ การเตรียมบุคลากร การเตรียมพื้นที่ และการลงทุนในอุปกรณ์ เช่น เครื่องกลึง เครื่องปั๊ม เครื่องเชื่อมพีวีซี เครื่องไฟฟ้า และเครื่องเชื่อมเหล็ก เป็นต้น เพื่อซัพพอร์ตลูกค้าเท่านั้นเอง” คุณศักดากล่าว
คุณศักดา กล่าวต่อถึงจุดเด่นของบริษัท ว่า ประกอบด้วย การทำงานที่มีคุณภาพโดยทีมงานวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ทำงานยาวนาน การทำงานมีมาตรฐานตรงตามความต้องการของลูกค้า ราคาที่ไม่แพง คุ้มค่าและเหมาะสมกับเงินที่ลูกค้าจ่าย รวมถึง การไม่เอาเปรียบลูกค้าในทุกกรณี นอกจากนี้ บริษัทยังเน้นการบริการที่ดี รวดเร็ว การส่งมอบที่ตรงต่อเวลา หรือ ก่อนระยะเวลาที่กำหนด การแก้ไขงานได้อย่างทันท่วงที เพื่อสร้างความประทับใจ สร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ทั้งหมดเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจและมอบหมายให้บริษัทรับงานมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการพัฒนามาโดยตลอดทั้งในภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยล่าสุดได้มีการฝึกอบรมในพื้นที่อับอากาศเป็นเวลา 5 วัน เพื่อรับงานซ่อมบำรุงถังบรรจุเคมีที่มีการผุกร่อนให้แก่ลูกค้าที่จังหวัดระยอง โดยก่อนการปฏิบัติงานจริง เจ้าหน้าที่จะต้องได้รับการฝึกอบรมดังกล่าวเพื่อให้มีความรู้ และมีความปลอดภัยในชีวิต ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มพื้นที่อับอากาศมากขึ้นในอนาคต
“ปัจจุบัน พื้นที่อับอากาศมีค่อนข้างเยอะ และเป็นอีกหนึ่งกลุ่มลูกค้าที่เราได้เข้าไปรับงาน ในอนาคต เรามีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มนี้ให้มากยิ่งขึ้น เพราะถังชุบจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3-4 ปี และเกิดการผุกร่อน ซึ่งจำเป็นต้องมีการซ่อมบำรุง หรือ เปลี่ยนถังใบใหม่ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดำเนินการจะต้องได้รับการฝึกอบรมก่อนทำงานจริง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากการทำงานค่อนข้างมีความเสี่ยงมาก และต้องอยู่กับสารเคมีจำนวนมาก การอบรมดังกล่าวถือว่ามีความคุ้มค่า เพราะนอกจากจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทแล้ว ยังนับเป็นวิชาที่ติดตัวให้พนักงานของเราที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมด้วยเช่นกัน” คุณศักดากล่าว
คุณศักดา กล่าวต่อถึงวิสัยทัศน์ในการผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ 9 ในปี 2566 ว่า อันดับแรก บริษัทจะยึดมั่นลูกค้าเป็นหลัก เนื่องจากลูกค้าเป็นผู้ที่ให้ความไว้วางใจและมอบหมายงานให้บริษัทดำเนินการ ซึ่งบริษัทมีความตั้งใจทำงานที่มีคุณภาพและดีที่สุดส่งมอบคืนกลับไปให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้ง การบริการที่เป็นเลิศในทุกๆ ด้าน
อันดับสอง คือ ลูกน้อง หรือ พนักงานทุกคนในองค์กร โดยมีความมุ่งมั่นให้พนักงานทุกคนมีความสุขในการทำงาน และมีรายรับคุ้มค่ากับการทำงาน หรือ ความเสี่ยงในการทำงาน โดยบริษัทจะมีสวัสดิการต่างๆ ให้แก่พนักงาน เช่น ที่พักอาศัยในโรงงานในราคาที่ไม่แพง และโบนัสประจำปี เป็นต้น รวมถึง การดูแลพนักงานทุกคนด้วยความเอาใจใส่ เปรียบเสมือนญาติพี่น้อง ปัจจุบันพนักงานของบริษัทส่วนใหญ่จะมีอายุการทำงานค่อนข้างนาน โดยมีรายรับที่เพิ่มขึ้นตามความรู้ และความสามารถของแต่ละบุคคล
“นับจากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน เรามีความมุ่งมั่น พัฒนาสินค้าเพื่อตอบสนองสำหรับความต้องการของลูกค้า และเป็นที่ยอมรับในภาคอุตสาหกรรม รวมถึง เน้นการรักษาคุณภาพงานที่ดี และให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของพนักงานทุกคนที่เข้าไปดำเนินการบำรุงรักษา ซ่อมแซม หรือปรับเปลี่ยนถังชุบให้แก่ลูกค้า เนื่องจาก ในการทำงานค่อนข้างมีความเสี่ยงสูง โดยจะทำตามคำแนะนำของลูกค้าทุกขั้นตอน นอกจากนี้ เราพร้อมที่จะเติบโตเคียงคู่กับลูกค้าตลอดไป” คุณศักดากล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเปิดกว้างในการฝึกอบรมและมอบวิชาความรู้ให้แก่พนักงานทุกคนในองค์กร เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินหน้าและเติบโตมากยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมทั้ง ไม่ปิดกั้น หรือ รับสมัครเฉพาะพนักงานที่มีทักษะเข้าทำงานเท่านั้น แต่จะเปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่ยังไม่มีทักษะ และมีความตั้งใจจริงเข้ามาร่วมงานกับบริษัทด้วยเช่นกัน
ด้านปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจ โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ลูกค้าได้มีติดตั้งไลน์ชุบใหม่หลายราย และในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าดังกล่าวประมาณ 4-5 ราย ไม่สามารถนำแรงงานของตัวเองมาดำเนินการเองได้ และต้องจ้างให้บริษัทเป็นผู้ดำเนินการติดตั้ง รวมถึง การจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่ลูกค้าขาดแคลนอีกด้วย
ขณะที่ ภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด โดยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ธุรกิจของบริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ผ่านมา และต่อเนื่องใน 2564 และ 2565 ตามลำดับ
ส่วนปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยหลักๆ จะเป็นเรื่องคู่แข่งที่มีจำนวนมากในธุรกิจเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทมองเป็นเรื่องที่ดีสำหรับลูกค้า ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีทางเลือกในการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะลูกค้าประจำมีความเชื่อมั่นในชื่อเสียง ผลงานคุณภาพ และมอบหมายให้บริษัทเป็นผู้ดำเนินการแต่เพียงรายเดียว ประกอบกับ บริษัทมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ โดยไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรเป็นสำคัญ เพื่อให้บริษัทและลูกค้าสามารถเดินหน้าในธุรกิจต่อไปได้