November 22, 2024

Biz Focus Industry Issue 125, June 2023

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

กางแผนธุรกิจ “จีไอเอส กรุ๊ป”

จีไอเอส กรุ๊ปเผยทิศทางการดำเนินงานปี 2566 เดินหน้าขยายธุรกิจแบบครบวงจรในขอบข่ายงานวิศวกรรมและงานเทคโนโลยี มุ่งเน้นนำ Innovation เสริมแกร่ง สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ชูการดำเนินธุรกิจด้วยมาตรฐานสากล กระจายอำนาจในการจัดการและการบริหาร (De-Centralized Management) บวกโฟกัสคุณภาพและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมสยายปีกธุรกิจบุกตลาดกัมพูชา สิ้นปีปักธงรายได้รวม 400 ลบ.

 

คุณภาณุวัฒน์ อัฐฐะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีไอเอส กรุ๊ป จำกัด

          คุณภาณุวัฒน์ อัฐฐะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีไอเอส กรุ๊ป จำกัด ผู้ให้บริการครบวงจรตั้งแต่งานรับเหมาระบบ ครอบคลุมถึงงานเทคโนโลยี กล่าวว่า จีไอเอสได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานและการเติบโตในปี 2566 ดังต่อไปนี้ เรื่องแรก คือ เน้นขยายธุรกิจแบบครบวงจรในขอบข่ายงานวิศวกรรมและงานเทคโนโลยี และมุ่งเน้นนำนวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างจุดยืน และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

ปัจจุบันจีไอเอสมีการดำเนินงานในหลายทีม หลายฝ่าย ดังนั้น จึงพยายามที่จะบูรณาการเพื่อรวมทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน โดยนำนวัตกรรมจากงานเทคโนโลยีมาช่วยในงานวิศวกรรม ก่อให้เกิดเป็น One Solution ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีขีดความสามารถมากยิ่งขึ้น และอยู่ได้ในการแข่งขัน พร้อมสร้างผลประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า

          เรื่องที่สอง คือ มาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ ปัจจุบันด้วยทิศทางในตลาด เริ่มมีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การที่จีไอเอสจะทำเซอร์วิสเพื่อให้แข่งขันได้นั้นจะต้องมุ่งเน้นที่ด้านมาตรฐานควบคู่ไปด้วย จึงทำให้ขณะนี้ จีไอเอสมีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจด้วย ISO ทั้ง 3 มาตรฐาน ประกอบด้วย ISO 9001 : 2015, ISO 45001 : 2018 และ ISO 27001 : 2013

สำหรับมาตรฐาน ISO 27001 : 2013 เป็นมาตรฐานเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี โดยจีไอเอสถือเป็นบริษัทผู้รับเหมาระบบเจ้าแรกที่ได้ผ่านการรับรอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบริษัทที่ทำธุรกิจรับเหมาระบบทั่วไปจะไม่ได้มีการจัดทำมาตรฐาน ISO ดังกล่าว แต่เนื่องจากจีไอเอสเป็นบริษัทรับเหมาระบบที่มีการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีด้วยตัวเอง

รวมถึง ข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทใดที่จะเข้าไปดำเนินงานให้กลุ่มธนาคาร หรือกลุ่มที่ต้องการความปลอดภัยสูง จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 เพราะฉะนั้นในการแข่งขันกับบริษัทที่เป็นคู่แข่ง หรือการเข้าไปหาลูกค้าที่เป็น International Brand จึงทำให้บริษัทค่อนข้างมั่นใจว่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ลูกค้าสามารถวางใจได้อย่างแน่นอน

          เรื่องที่สาม คือ กระจายอำนาจในการจัดการและการบริหาร (De-Centralized Management) สำหรับการจัดการของจีไอเอส ที่ได้เริ่มเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คือ การกระจายอำนาจการจัดการลงไป ทั้งนี้ ด้วยโครงสร้างของบริษัท ณ ขณะนี้ ได้กำหนดอย่างชัดเจนว่า ถ้าได้รับงานที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป ทีมงานสามารถตันสินใจเซ็นอนุมัติ และบริหารจัดการได้เอง โดยไม่ต้องผ่านผู้บริหารระดับสูง เพื่อลดระยะเวลาในการดำเนินงานให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น

พร้อมทั้ง ช่วยให้การบริหารมีความคล่องตัวมากกว่าเดิม โดยในแต่ละด้านของการดำเนินงานจะมีคนที่มีอำนาจตัดสินใจในส่วนต่างๆ โดยได้เริ่มดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งเป็นความตั้งใจของตนที่ต้องการ De-Centralized เพื่อที่จะไม่ได้มีการ Centralized อยู่ที่ผู้บริหารเพียงไม่กี่คน

นอกเหนือจากการกระจายอำนาจในการจัดการและการบริหาร (De-Centralized Management) สิ่งที่จีไอเอสได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง คือ มุ่งเน้นคุณภาพและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก โดยได้ตั้งทีม Call Center และมี Hotline ให้บริการ 24 ชั่วโมง ด้วยคอนเซ็ปต์ คือ ถึงแม้จะทำงานด้านวิศวกรรม แต่งานในทุกๆ ด้านของจีไอเอสจะมีฝ่าย CRM ที่ต้องเข้าไปประเมินในทุกๆ โครงการ ไม่ว่าจะเป็น งานขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ โดย Call Center จะโทรเข้าไปสอบถามถึงความพึงพอใจอยู่เสมอ

          สำหรับเรื่องสุดท้ายที่จีไอเอสจะดำเนินการในปี 2566 คือ ขยายธุรกิจด้วยการลงทุนในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันเริ่มเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการ และเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ใช้งบลงทุน 10 ล้านบาท โดยยังคงทิศทางการดำเนินงานในรูปแบบเช่นเดียวกับประเทศไทย มีพนักงานหลักเป็นคนไทย และวิศวกรชาวกัมพูชา ส่วนในด้านของแรงงานเป็นชาวกัมพูชาทั้งหมดที่เคยร่วมงานกับจีไอเอสในประเทศไทยและกลับไปรับงานที่กัมพูชา

ทั้งนี้ เบื้องต้นสำหรับธุรกิจในประเทศกัมพูชาจะรับงานโครงการเฉพาะบริษัทที่มีศักยภาพ มีความมั่นคงทางด้านการเงินของประเทศไทยเท่านั้น โดยปัจจุบันผลตอบรับถือได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี หากในอนาคตธุรกิจยังคงมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จึงจะวางแผนในขั้นตอนต่อไป

สำหรับการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศกัมพูชา เนื่องจากตนได้มีโอกาสเข้าไปสำรวจมาก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 3-4 ครั้ง จึงทำให้ได้เห็นการดำเนินงานในแต่ละด้าน สิ่งแรก คือ มองเห็นโอกาส ดังนั้นจึงเลือกที่จะรับโอกาส เพราะส่วนใหญ่แล้วบริษัทที่รับงานอยู่ในประเทศกัมพูชามีบริษัทที่ได้มาตรฐานและทำงานที่มีคุณภาพยังมีจำนวนไม่มาก จึงอยากเข้าไปเป็นในส่วนนี้เพราะจีไอเอสมีความพร้อมอยู่แล้วในประเทศไทย

“จริงๆ แล้วจีไอเอสมีนโยบายในการบริหารและจัดการองค์กรที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง คือ “ครอบครัวเดียวและหม้อข้าวหม้อเดียว” หมายถึง แม้อยู่ในประเทศไทยเราจะมีทีมงานอยู่หลายทีม มีหลากหลายธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของจีไอเอส แต่จริงๆ ผลประโยชน์ที่ได้รับ เราจะแชร์ร่วมกันหมด ขณะนี้ นโยบายดังกล่าวได้นำไปใช้ในประเทศกัมพูชาด้วยเช่นกัน

อาจจะเป็นนโยบายที่ฟังดูแตกต่างจากหลายบริษัท แต่เนื่องจากปัจจุบันจีไอเอสได้ใช้โปรแกรม ERP : MANGO Software บน Cloud ที่ทำให้สามารถทำงานได้จากทุกที่ในโลก พร้อมอนุมัติ ติดตามงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง และดูผลประกอบการในแต่ละยูนิตได้ ซึ่งนโยบายนี้เราดำเนินการมากว่า 20 ปี ทำให้เราไม่มีปัญหาภายใน ทุกคนช่วยเหลือกันทั้งหมด ตนมีความรู้สึกว่าชอบบรรยากาศการทำงานแบบนี้ การที่ทุกคนคอยช่วยเหลือกันแม้กระทั่งข้ามประเทศ ดังนั้น จึงมองว่าเป็นภาพการบริหารที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ” คุณภาณุวัฒน์กล่าว

          คุณภาณุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในปี 2566 จีไอเอสวางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 400 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับตัวเลขรายได้ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยแบ่งเป็น ในประเทศไทย 350 ล้านบาท และ 50 ล้านบาท จากการลงทุนในประเทศกัมพูชา (สำหรับปีแรก) ทั้งนี้ หากทิศทางธุรกิจยังคงดีอย่างต่อเนื่อง สิ้นปีนี้คาดว่าตัวเลขจะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

โดยจีไอเอสเติบโตจากงานของลูกค้ากลุ่มเอกชน 90% แบ่งเป็น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น ตลาดบ้านเดี่ยว, ตลาดทาวน์โฮม และตลาดคอนโดมิเนียม / กลุ่มอาคารพาณิชย์ เช่น ตลาดอาคารสำนักงานสูงและตลาดอาคารให้เช่า / กลุ่มโรงพยาบาล / กลุ่มโรงงาน / กลุ่มคู่ค้าทางธุรกิจ และกลุ่มราชการและรัฐวิสาหกิจ 10% ขณะที่งานของกลุ่มราชการ ปัจจุบันจีไอเอสค่อยๆ ขยับขยายมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ในขณะนี้ มีโปรเจคที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ดังนั้น ในอนาคตจึงคาดว่าจะมีโอกาสที่ดีมากยิ่งขึ้น

          คุณภาณุวัฒน์ กล่าวต่อว่า จีไอเอสได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2543 ปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 24 ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจุดกำเนิดเริ่มมาจากทีมงานวิศวกรทางด้านงานระบบปรับอากาศ และวิศวกรส่วนงานระบบ Control ในอาคาร จากนั้นในปี 2551 จึงได้เริ่มขยายมาดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับงานระบบในอาคารให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เสน่ห์ของจีไอเอส คือ เป็นผู้รับเหมางานระบบที่ทำงานเทคโนโลยีในอาคารครบวงจร ดังนั้นจีไอเอส จึงได้เรียกตัวเองว่า “Engineering Technology Specialist (ตอบโจทย์เรื่องงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีในที่เดียว)”

โดยจีไอเอสมีจุดเด่นที่ส่งผลให้ลูกค้ายังคงมีความพึงพอใจ ไว้วางใจมาอย่างต่อเนื่อง คือ ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และคู่ค้า, One-Stop-Service ให้บริการครอบคลุมครบวงจร, ไม่เคยทิ้งงาน รับผิดชอบงานจนจบทุกโครงการ, ให้บริการลูกค้าด้วยมาตรฐานสากล, ให้ความสำคัญกับลูกค้า พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังรวมถึงเรื่องของการบริหาร โดยจีไอเอสดูแลกันและอยู่ร่วมกันแบบเป็นครอบครัวทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน

          คุณภาณุวัฒน์ กล่าวต่อถึงสิ่งที่อยากฝากถึงกลุ่มลูกค้าของจีไอเอสว่า ตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของจีไอเอส เรื่องแรกที่อยากจะบอกกับลูกค้าและคู่ค้า คือ จีไอเอสมุ่งเน้นการบริการอย่างซื่อสัตย์ ซื่อตรง และเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพตรงความต้องการลูกค้าหรือมากกว่า อีกทั้ง จะไม่มีการเอาเปรียบคู่ค้า ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า, Supplier, Sub-contractor และ All Stakeholder

เรื่องที่สอง คือ จีไอเอสไม่ดำเนินธุรกิจด้วยความประมาทและเกินตัว นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาจนปัจจุบันแม้กระทั่งเกิดวิกฤตใหญ่ที่สุดในช่วงแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจีไอเอสไม่มีการลดเงินเดือน หรือลดพนักงาน เนื่องจากบริษัทมีฐานกำลังที่พร้อมรับมือได้เป็นอย่างดี มีการคิด วิเคราะห์ และพร้อมที่จะเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ เรื่องสุดท้าย คือ พื้นฐานของธุรกิจจีไอเอสที่มาจากนโยบายครอบครัวเดียว และหม้อข้าวหม้อเดียวในการบริหารและจัดการองค์กร จึงการันตีถึงการทำงานเป็นทีมอย่างแน่นอน

“ลูกค้าจีไอเอสไม่ต้องกังวลถึงความรับผิดชอบในการทำงาน เพราะสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเป็นของที่ตรงตามความต้องการอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ Supplier ให้มีความมั่นใจได้ เพราะจีไอเอสเป็นบริษัทที่จ่ายตรง และชำระตรงเวลา” คุณภาณุวัฒน์ กล่าว

www.gisgroup.co.th

 

 

 

Page Visitor

012543437
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
16423
18787
104730
351228
432245
12543437
Your IP: 3.138.118.194
2024-11-22 19:24
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.