สยามอินเตอร์คูล ประกาศทิศทางธุรกิจ เน้นการสื่อสาร สร้างความสัมพันธ์ สนองความต้องการลูกค้า
บริษัท สยามอินเตอร์คูล จำกัด เผยแผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 มุ่งให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของลูกค้า ปีนี้เตรียมบุกธุรกิจสุราชุมชน และคราฟต์เบียร์ รองรับการเติบโตในอนาคต พร้อมโชว์จุดเด่นด้านการ Custom ด้วยความพร้อมของบุคลากร เครื่องจักร นวัตกรรม และการบริการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้า ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานในต้นทุนที่ต่ำกว่า
คุณกิตตินันท์ ตั้งสิริมานะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอินเตอร์คูล จำกัด
คุณกิตตินันท์ ตั้งสิริมานะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอินเตอร์คูล จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท คือเรื่องของการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อย้ำให้เห็นว่าเราไม่ได้เก่งแค่การผลิตเท่านั้น เพราะความเชี่ยวชาญอันเป็นจุดเด่นสำคัญของสยามอินเตอร์คูล คือการทำ Customization หรือการออกแบบและผลิตตู้แช่ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทมีการออกแบบและผลิตตู้แช่ให้กับลูกค้าเจ้าใหญ่ในประเทศมากมายหลายบริษัท และยังคงได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทยังมีสินค้าตู้แช่ของตนเอง ภายใต้แบรนด์ “SIAM INTERCOOL” เป็นสินค้าที่ผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ต้องการสร้างร้าน หรือทำธุรกิจต่างๆ โดยวางจำหน่ายตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ
ล่าสุดเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้ผลิตสินค้าโดยใช้ชื่อว่า “Mr.Chill” แบรนด์ตู้แช่เพื่อธุรกิจร้านอาหาร ร้านตามสั่ง หรือร้านขายของชำต่างๆ อันเป็นมาตรฐานเดียวกับตู้แช่ระดับไฮเปอร์มาเก็ตหรือซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ปัจจุบัน “Mr.Chill” วางจำหน่ายในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงร้านขายวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจรอย่าง DOHOME จำนวน 24 สาขาด้วย ซึ่งการเข้าไปในดูโฮมเนื่องมาจากวิสัยทัศน์ของดูโฮม ที่มองว่าลูกค้าไม่ได้มีแค่สร้างบ้านเท่านั้น แต่รวมไปถึงการสร้างร้านด้วย ฉะนั้นสินค้าตู้แช่จึงเป็นสินค้าหนึ่งที่ดูโฮมให้ความสนใจ
“เราพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอยู่เสมอ และสื่อสารทำความเข้าใจกับลูกค้าโดยตลอดว่า ตู้แช่ไม่ได้มีแค่แบบเดียว เพราะตู้แช่เป็นสิ่งที่อยู่ในธุรกิจรีเทลหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น มินิมาร์ท ร้านกาแฟ เบเกอรี่ ร้านอาหาร หรือปัจจุบันที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากคือธุรกิจสุราชุมชน และคราฟต์เบียร์ ที่ต้องมีตู้แช่หรือถังหมักบ่มเฉพาะที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ รวมถึงธุรกิจร้านขายเนื้อสัตว์ ที่เป็นเทรนด์แล้วมาระยะหนึ่ง ก็มีตู้แช่เฉพาะสำหรับเนื้อสัตว์ ซึ่งสยามอินเตอร์คูลได้มีการจดสิทธิบัตรตู้แช่เนื้อสัตว์แล้วถึง 8 สิทธิบัตร นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอุตสาหกรรมด้านสาธารณสุข อย่างเช่น ตู้แช่ยา และวัคซีน เป็นต้น จะเห็นได้ว่าธุรกิจเราคือการควบคุมอุณหภูมิ เพราะฉะนั้นในธุรกิจไหนที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ สยามอินเตอร์คูลเราสามารถผลิตได้ทั้งหมดตามความต้องการของลูกค้า” คุณกิตตินันท์กล่าว
อย่างไรก็ตาม สยามอินเตอร์คูลเรายังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตสินค้าตามแนวคิดของเจ้าของเป็นส่วนใหญ่ หรือหากปีไหนรู้สึกสนุกกับอุตสาหกรรมใดเป็นพิเศษ เราก็จะพยายามเข้าไปสร้างความสัมพันธ์กับธุรกิจนั้นๆ ซึ่งในปีนี้เทรนด์ของสุราชุมชน หรือคราฟต์เบียร์ กำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะสุราชุมชนที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงการผลิตสุรา เมื่อปี 2565 ให้สามารถผลิตสุราเพื่อการค้าได้ สำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดกลาง ทำให้ชุมชนต่างๆ หันมาให้ความสนใจและนำเอาวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นมาใช้ในการผลิตสุรากันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้สยามอินเตอร์คูลเรามองเห็นโอกาส ที่จะนำความเชี่ยวชาญของเราในด้านการออกแบบและผลิตตู้แช่เข้ามาช่วยในธุรกิจเหล่านี้ และเป็นสิ่งที่เราจะเน้นในปีนี้ด้วย
คุณกิตตินันท์ กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานในปี 2566 ด้วยว่า ปีที่แล้วเนื่องด้วยเศรษฐกิจในประเทศมีความผันผวน ไม่แน่นอน ธุรกิจรากหญ้าจึงไม่กล้าลงทุนมากนัก กลุ่มที่ลงทุนได้จึงเป็นบรรดาธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะเห็นว่าเจ้าใหญ่มีการลงทุนเปิดร้าน ขยายสาขา และทำ Refurbished ในหลายแบรนด์ เพราะเป็นการลงทุนในราคาที่ถูก และไม่มีคู่แข่งจากภูมิภาค ซึ่งธุรกิจเหล่านี้คาดว่าน่าจะทรงตัวไปอีก 2-3 ปี ดังนั้นสยามอินเตอร์คูลเราจึงพยายามจะเน้นที่ลูกค้าเจ้าใหญ่เป็นหลัก ทำให้การดำเนินงานในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตอยู่ที่ 20% จากปี 2565
สำหรับปี 2567 นี้ คาดว่าการเติบโตจะน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยจะเติบโตอยู่ที่ 15-20% เพราะโดยปกติเมื่อเข้าเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เจ้าของธุรกิจรายใหญ่จะต้องเริ่มตัดสินใจลงทุนด้านต่างๆ แล้ว อย่างเช่น การขยายสาขา หรือ Refurbished แต่ปีนี้ทุกคนซึ่งรวมถึงเจ้าใหญ่ ยังรอดูทิศทางเศรษฐกิจในประเทศกันอยู่ ซึ่งหากเจ้าใหญ่มีการลงทุน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจะขยายตามไปเอง แต่ถ้าการลงทุนหรือการขยายไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อย ก็จะส่งผลถึงเราด้วย นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่ควรระมัดระวังอีกอย่างหนึ่งคือสินค้าจีนที่เข้ามาในประเทศ แบบไม่มีการควบคุมราคา ก็เป็นปัญหาเหมือนกันสำหรับธุรกิจ SME ในไทย
“อย่างไรก็ตาม สยามอินเตอร์คูลเราพยายามทำธุรกิจอย่างระมัดระวัง ตามศักยภาพของบริษัท ไม่ต้องการขยายให้เติบโตจนเกินควร ขอแค่ให้เราอยู่ในตลาดนี้ไปได้เรื่อยๆ อย่างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เราก็สามารถอยู่ได้ โดยไม่ต้องปิดบริษัทหรือ Lay off พนักงานออกเลย ตอนนี้ฐานลูกค้าที่เรามีอยู่ก็เต็ม Capacity แล้ว พนักงานก็แฮปปี้ ทุกคนก็คิดว่าแบบนี้มันพอดีแล้ว ถ้าถามผม ส่วนตัวไม่เห็นความจำเป็นในการขยายธุรกิจให้มันโตขึ้นทุกปี เพราะเราไม่ได้ลงทุนมากขึ้น เราขอแค่อยู่ได้แบบชนะเงินเฟ้อก็โอเคแล้ว และในบรรดาเพลย์เยอร์ต่างๆ ในไทย ถ้านับเจ้าใหญ่ก็ไม่ได้มีเยอะหรอก แล้วทุกคนก็มีความสัมพันธ์กับสยามอินเตอร์คูลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในช่วงที่เรารู้สึกว่าต้องเข้าไปเจาะกลุ่มไหน ยังไงก็มีทางเข้าไปเสมอ” คุณกิตตินันท์กล่าว
ปีนี้แม้เราจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ใดก็ตาม บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่เป็นจุดเด่นของเราต่อไป คือการทำ Customization เพื่อออกแบบและผลิตตู้แช่คุณภาพสูงตามที่ลูกค้าต้องการ ด้วยความพร้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมตู้แช่ของประเทศไทย และเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตที่ทันสมัย รวมถึงนวัตกรรมที่มีสิทธิบัตรเฉพาะในแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตู้แช่ไทยสามารถแข่งขันกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศได้ และลูกค้าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพทัดเทียมมาตรฐานสากลในราคาที่ย่อมเยา
นอกจากนี้ในเรื่องของ Service สยามอินเตอร์คูลสามารถให้บริการกับตู้แช่ได้ทุกยี่ห้อ เนื่องจากเรารู้โครงสร้างการผลิตตู้แช่ดีและเราเชี่ยวชาญด้านนี้มาโดยตลอด ซึ่งการบริการต่างๆ มีครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศกว่า 1,000 สาขา รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยด้วย เพราะโดยปกติ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ที่ช่าง Service ไม่ค่อยเข้าไป แต่บริษัทเราสามารถทำได้ เพราะเรามีความสัมพันธ์กับลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ โดยศูนย์บริการนี้ 1,000 สาขา เราไม่ได้เป็นเจ้าของทั้งหมด แต่จะเป็นการจับมือกับลูกค้าแต่ละภูมิภาคให้ทำ Service ให้เรา ซึ่งมีการพัฒนาโนว์ฮาวต่างๆ ร่วมกันด้วย
ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของสยามอินเตอร์คูลคือในเรื่องการประหยัดพลังงาน เนื่องจากเราใช้น้ำยาทำความเย็นที่เป็นสารจากธรรมชาติ R290 ทำให้ประหยัดพลังงานการใช้ไฟฟ้าถึง 30% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำยาทำความเย็นปกติ ซึ่งบริษัทมีการทดสอบค่าไฟอยู่ตลอด โดยเป็นการทดสอบที่มีสินค้าแช่อยู่ในตู้แช่จริง เพื่อคำนวนพลังงานความร้อนของสินค้า ปริมาณของการแลกเปลี่ยน ขนาดคอมเพรสเซอร์ ปริมาณน้ำยาทำความเย็นที่จะสัมพันธ์ใกล้เคียงกับสินค้า ซึ่งยิ่งสัมพันธ์มากเท่าไรก็จะยิ่งประหยัดไฟมากเท่านั้น
คุณกิตตินันท์ กล่าวว่า ในอุตสาหกรรมตู้แช่ สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจนี้คือเรื่องของความสัมพันธ์กับคน ลูกค้าในประเทศไทยถ้าจับมือกันยังไงธุรกิจก็เติบโตไปด้วยกัน และสามารถกันสินค้าจากต่างประเทศได้ ฉะนั้นในเชิงวิสัยทัศน์ของการดำเนินงานสยามอินเตอร์คูลเราจะเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์เป็นหลัก ที่ผ่านมาบริษัทค่อนข้างมีชื่อเสียงในเรื่องของความจริงใจ เพราะการจะออกแบบและผลิตตู้แช่ออกมาแต่ละแบบ ต้องใช้เวลา และการพูดคุยหารือกับลูกค้าทั้งหมด ซึ่งลูกค้าเราต่างรู้ดีถึงศักยภาพของเรา นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้สยามอินเตอร์คูลอยู่ได้ เพราะเราไม่ได้เน้นที่ปริมาณสินค้า แต่เราเน้นที่การให้ความสำคัญ และความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้ บริษัท สยามอินเตอร์คูล จำกัด ก่อตั้งขึ้นโดยผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้านตู้แช่ยาวนานมากกว่า 20 ปี ปัจจุบันเราคือโรงงานผลิตตู้แช่คุณภาพที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเราจัดจำหน่ายและให้บริการติดตั้ง รับออกแบบและผลิตตู้แช่คุณภาพสูง มาตรฐานส่งออก สำหรับธุรกิจทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ด้วยการปรึกษากับลูกค้าก่อนกระบวนการผลิตทุกครั้ง ให้ลูกค้าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการออกแบบและอนุมัติแบบก่อนผลิตจริง ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด