คุณทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการภาคพื้นอินโดไชน่า บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2563 นี้ เอสซีลอร์ ได้วางกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น โดยได้แต่งตั้ง คุณดู๋ สัญญา คุณากร พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เอสซีลอร์คนแรกของประเทศไทย เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณชนถึงสาระสำคัญของการแก้ไขการมองเห็น การให้ข้อมูลการถนอมดวงตา หรือการดูแลสุขภาพสายตาแบบ 3 in 1 โดยการเลือกใช้เลนส์แว่นตาที่มีคุณสมบัติสำคัญครบ 3 ประการในเลนส์เดียว ได้แก่ การแก้ไขปัญหาการมองเห็น การปกป้องดวงตา และความเคลียร์ใส ที่เป็นการยกระดับความคมชัดในการมองเห็นอย่างสมบูรณ์

ดู๋ สัญญา คุณากร แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของไทย

รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรมเลนส์แว่นตาของเอสซีลอร์ อาทิ เลนส์โปรเกรสซีฟ VARILUX® และเทคโนโลยีเลนส์อื่นๆ เช่น Blue UV Capture™, Transitions®, และ Crizal® แก่ผู้ใช้แว่นตา หรือผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา โดยเข้าถึงผ่านทางแพล็ตฟอร์มต่างๆ ทั้งในช่องทาง Offline และ Online ที่หลากหลาย พร้อมเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอสซีลอร์ในการช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคจากการมองเห็นที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งยังได้มีการสนับสนุนการดำเนินงานตามแคมเปญการตลาดของเอสซีลอร์ “See More. Do More” ที่บอกเล่าถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการนำเสนอคุณภาพและนวัตกรรมเลนส์แก่ผู้บริโภค ตลอดจนร่วมฉลองความสำเร็จตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาแห่งการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาเลนส์สายตาชั้นเยี่ยมเพื่อยกระดับการมองเห็นของผู้คนทั่วโลกด้วย

นอกจากนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเข้าถึงผู้บริโภคและตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิดมากขึ้น คือการอัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ กิจกรรมพิเศษตามช่วงเทศกาล การให้ความรู้สำหรับดูแลสุขภาพดวงตา การให้คำแนะนำเจาะลึกถึงเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เลนส์ชนิดต่างๆ อย่างละเอียดเพื่อช่วยในการเลือกเลนส์แว่นตาได้อย่างเหมาะสม ผ่านทางช่องทางออนไลน์ของเอสซีลอร์ อาทิ เฟซบุ๊ค Essilor Thailand, Line OA เป็นต้น ขณะเดียวกันจะมีการทำไลฟ์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อร่วมตอบคำถามหรือปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับเรื่องดวงตาจากผู้บริโภค การคลายข้อสงสัยต่างๆ รวมถึงการจัดสัมมนาไลฟ์สดนี้ก็เพื่อเป็นแนวทาง นำเสนอเทคนิค ข้อมูลนวัตกรรมสินค้า รวมไปถึงการรุกตลาดออนไลน์ เพื่อการดำเนินธุรกิจอันเป็นประโยชน์แก่ตัวแทนจำหน่าย

สำหรับการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง คุณทฤษฎี กล่าวว่า บริษัทได้มุ่งเน้นการเปิดตัวสินค้าใหม่ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ และเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ด้วยกลุ่มสินค้าที่เน้นการปกป้องดวงตาทั้งจากรังสียูวีและแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย Blue UV Capture และ Eyezen Start ที่ช่วยผ่อนคลายอาการตาล้าจากการทำงานผ่านทางอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ เป็นระยะเวลานาน และ Optifog ที่ช่วยลดการเกิดหมอกฝ้าซึ่งเกาะบนผิวเลนส์ ซึ่งช่วยตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบันที่การใส่หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน

“เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันนั้น สร้างผลกระทบอย่างชัดเจนให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทยในทุกภาคส่วน ซึ่งทางบริษัทเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามเราได้มีการเตรียมแผนดำเนินงานเพื่อปรับตัวและรับมือจากสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการทำงานใหม่ “New Normal” อาทิเช่น ทางบริษัทได้มีการจัดรูปแบบการทำงาน Work From Home ให้กับพนักงาน และการจัดสัมมนาผ่านทางโปรแกรมออนไลน์ เพื่อให้ความรู้เรื่องนวัตกรรม รวมไปถึงเทคนิคสำหรับการขายต่างๆ ในช่องทาง Online ให้กับตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในด้านต่างๆ และคาดหวังว่าจะเติบโตได้มากกว่าเดิมจากการเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าเหล่านี้” คุณทฤษฎีกล่าว

คุณทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการภาคพื้นอินโดไชน่า บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด

คุณทฤษฎี กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตของบริษัทด้วยว่า จากความสามารถและการมุ่งเน้นที่จะแก้ไขปัญหาด้านสายตาและเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ ในการดูแลปกป้องดวงตา เอสซีลอร์คาดว่าในปีหน้าจะสามารถเติบโตได้มากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งจะชดเชยยอดขายและการเติบโตที่ได้รับผลกระทบในปี 2563 นี้ด้วย ในขณะเดียวกันยังพร้อมที่จะเดินหน้าให้ความรู้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเลือกใช้เลนส์แว่นตาให้เหมาะสมแก่การใช้งานในชีวิตประจำวัน หรืองานเฉพาะทางลักษณะต่างๆ อย่างถูกต้อง เทคนิคการดูแลสุขภาพดวงตาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะผู้บริโภค คือหัวใจของการพัฒนาเลนส์แว่นตาของเอสซีลอร์

ทั้งนี้ จุดเด่นของเอสซีลอร์ คือการขับเคลื่อนองค์กร ด้วยการลงทุนกับนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นเยี่ยมที่สร้างความแตกต่าง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตขององค์กร ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตาชั้นนำของโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายในการแก้ไขและการป้องกันเพื่อมอบสุขภาพดวงตาที่ดีแก่คนทั่วโลก และพร้อมรับกับความท้าทายของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ที่ผ่านมา เอสซีลอร์ถือเป็นผู้ปฏิวัติอุตสาหกรรมด้านจักษุและการมองเห็นมาตั้งแต่แรก เพราะในปี 2502 ได้คิดค้นเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive) ที่มีชื่อว่า เลนส์วารีลักซ์ชิ้นแรกของโลก ซึ่งเป็นเลนส์ที่มอบการมองเห็นที่คมชัดทุกระยะจากใกล้จนถึงไกล โดยเอสซีลอร์มีทีมวิจัยและพัฒนา รวมถึงความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษาทางด้านจักษุวิทยา ที่ช่วยให้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ซึ่งในแต่ละปีเอสซีลอร์ได้ทุ่มงบลงทุนถึง 200 ล้านยูโร ให้กับการค้นคว้าวิจัยและนวัตกรรม เพื่อบรรลุภารกิจในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนด้วยการแก้ไขปัญหาการมองเห็น 

คุณทฤษฎี กล่าวต่อว่า ล่าสุด เอสซีลอร์ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่คือ เลนส์แว่นตาอายเซ็น (Eyezen) ที่ถูกออกแบบมาพร้อมกับเทคโนโลยีพิเศษ DualOptim ซึ่งคำนวณค่าบิดเบือนของแสงทั้ง 2 ระยะการมอง ทำให้สามารถมองทั้งทิวทัศน์ระยะไกล และจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือระยะใกล้ได้อย่างคมชัดและสบายตา พร้อมการปกป้องดวงตาในเลนส์เดียว ด้วยเทคโนโลยี Blue UV Capture ช่วยกรองเฉพาะแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย ลดอันตรายที่แฝงมากับอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ขณะใช้งาน และยังมีเนื้อเลนส์ที่ใสกว่าและช่วยลดความผิดเพี้ยนของสีสันได้ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์บลูตัดแสงสีฟ้าทั่วไป อายเซ็นจึงเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีการบริโภคข่าวสารออนไลน์ที่เฉลี่ย 12 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเกือบ 60% ของคนส่วนใหญ่จะใช้สมาร์ทโฟนทั้งก่อนนอนและหลังตื่นนอน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ดวงตาทำงานหนักจนเกิดความล้าสะสมทั้งสิ้น

จากประสบการณ์อันยาวนานกว่า 170 ปี เอสซีลอร์ยังคงความมุ่งมั่นที่จะให้บริการแก้ไขและป้องกันสุขภาพดวงตาของ 7.7 พันล้านคนทั่วโลก โดยมีเป้าหมายคือการขจัดปัญหาทางด้านสายตาให้หมดไป เพราะเอสซีลอร์เชื่อว่าการมองเห็นที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้เราสามารถเรียนรู้ ทำงาน ตลอดจนปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบๆ ตัวเราได้ ทำให้เอสซีลอร์ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาด้านสายตานี้ ให้กับ 1 ใน 3 ของประชากรโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านสายตา ผ่านการคิดค้นวิจัยสรรสร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกช่วงวัย ทุกไลฟ์สไตล์

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าพนักงานและผู้ร่วมงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องของเอสซีลอร์คือ รากฐานของความสำเร็จของบริษัทฯ ตั้งแต่เริ่มแรกจวบจนถึงปัจจุบันที่มุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลกด้วยการส่งมอบการมองเห็นที่ดี โดยปัจจุบันเอสซีลอร์มีพนักงานอยู่ประมาณ 69,000 คน ใน 70 ประเทศทั่วโลก ที่พร้อมช่วยมอบวิสัยทัศน์ที่ดีและสร้างความตระหนักรู้ในการรักษาสุขภาพดวงตาเพื่อแก้ไขได้อย่างทันท่วงที รวมถึงให้ความสำคัญกับการเลือกเลนส์แว่นสายตามากยิ่งขึ้น เพราะเลนส์แว่นตามีความสำคัญต่อคุณภาพการมองเห็นและสุขภาพดวงตาโดยตรง การเลือกเลนส์แว่นตาที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยแก้ไขปัญหาสายตาได้ตรงจุด และป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้” คุณทฤษฎีกล่าวทิ้งท้าย