สหโคเจน เดินหน้าแผนงานลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ลงนาม กฟผ. ขายไฟ 27 MW นาน 25 ปี
สหโคเจน สนับสนุนการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของประเทศไทย ดันบริษัทในเครือ “โซลาริสท์ ทุ่งฝาย” ลงนามซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. นาน 25 ปี คาดเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป
นายอุดมพงษ์ จันทรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เปิดเผยว่า บริษัท โซลาริสท์ ทุ่งฝาย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นผ่านบริษัท โซลาริสท์ โฮลดิ้ง จำกัด (SOL) ในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farm) ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 27 เมกะวัตต์ และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2573
โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงมีอัตราจำหน่ายไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 2.1679 บาทต่อหน่วย ตลอดอายุสัญญา ซึ่งการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฯ จะช่วยลดความผันผวนจากราคาเชื้อเพลิง และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนทั้งในภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรม ให้ได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในราคาที่ต่ำกว่าราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในปัจจุบัน ตลอดอายุสัญญาของโครงการฯ โดยโครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 227.29 ไร่ ที่ตำบลทุ่งฝาย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นี้ เป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ SCG ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) โดยการใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการดังกล่าว จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 893,605 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ต่อปี รวมถึงยังสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เป็นร้อยละ 15 ของกำลังการผลิตรวมตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น ภายในปี 2573 เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม