นาย ชาติชาย สุภัควนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย นาโน เอ้าส์ จำกัด เปิดเผยถึงเหตุผลของการเปิดตัวบล็อก นาโน นวัตกรรมการก่อสร้างรูปแบบใหม่ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการตอบโจทย์ค่าแรง ขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศในปี 2556 เพราะการสร้างบ้านในปัจจุบันจะมีค่าใช้จ่ายสูงทั้งในเรื่องของค่าแรงและ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง โดยต้องใช้แรงงานเป็นจำนวนมากและต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนาน อีกทั้งยังไม่ประหยัดพลังงานและไม่ทนทานต่อภัยพิบัติธรรมชาติ อาทิ การเกิดพายุ แผ่นดินไหว สึนามิ เป็นต้น หรือแม้แต่เพลิงไหม้ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดมากขึ้น

“บ้านสมัยเก่าจะ เป็นบ้านไม้ขนาดใหญ่และมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 10 คน ต่อมาได้วิวัฒนาการเป็นบ้านปูนและจำนวนผู้อยู่ลดเหลือประมาณ 5-6 คน และไม่สามารถตอบโจทย์สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงได้ ทำให้ต้องเสียค่าไฟแพง และในอนาคตค่าเอฟทีจะแพงขึ้นค่าไฟก็แพงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้การขาดแคลนคนรับใช้นับเป็นประเด็นที่สำคัญเช่นกัน โดยปัจจัยเหล่านี้ทำให้บ้านในอนาคตจะมีขนาดเล็กลง (Micro Family) และคาดว่าอีกประมาณ 2 ปี ชนชั้นกลางจะไม่มีสิทธิ์มีบ้าน จะมีสิทธิ์แค่เช่าอยู่อาศัย ดังนั้นบล็อก นาโน จึงเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้โดนใจในด้านการเงิน คุณภาพ การประหยัดพลังงาน รวมทั้งระยะเวลาในการก่อสร้างที่สามารถทำได้รวดเร็วและลดการใช้แรงงาน” นาย ชาติชายกล่าว

ทั้งนี้บล็อก นาโน สามารถนำมาก่อสร้างอาคารรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น รีสอร์ท เสาคอนกรีต ห้องเก็บของ รั้วบ้าน รั้วโรงงาน แนวคันกันน้ำนท่วมเป็นต้น  โดยประหยัดกว่าการก่อสร้างแบบเสาคาน เพราะไม่ต้องทำเสาคาน เสาเข็ม แบบเดิมที่เสียเวลาและมีต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น รวมทั้งยังสามารถใช้วัสดุในท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบ เช่น เศษไม้ ฟางข้าว แกลบ ผักตบชวา เปลือกมะพร้าว ต้นอ้อย ข้าวโพด เป็นต้น ซึ่งช่วยลดค่าขนส่งได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งลูกค้าสามารถก่อสร้างเองได้ เนื่องจากรูปทรงของบล็อกถูกออกแบบมาในแบบตัวต่อ ง่ายในการประกอบใช้งาน ไม่ต้องจ้างช่าง

นอกจากนี้บล็อก นาโน จะมีรูกลวงด้านในทำให้ง่ายในการร้อยสายไฟฟ้า ท่อประปา และเป็นฉนวนกันความร้อนได้ในตัว จึงทำให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าอาคารปูนทั่วไป และผนังแบบรับแรงสามารถรับน้ำหนักทั้งผืนผนัง ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้โครงสร้างอาคารแข็งแรง มีความคงทนถาวร หรือจะใช้เหล็กเสริม และกรอกปูนลงในช่องว่างบล็อกได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนเพื่อความแข็งแรง ก่อสร้างได้รวดเร็ว

“จุดเด่นของบล็อก นาโน คือสามารถรองรับน้ำหนักขั้นต่ำได้อยู่ที่ 15 ตัน/บล็อก ซึ่งผ่านการทดสอบจากจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย โดยความยาวหนึ่งเมตรใช้บล็อก 2.5 ก้อน รับน้ำหนักได้ 40 ตัน ส่วนบล็อกสำหรับต้านภัยพิบัติ ก้อนหนึ่งรับน้ำหนักได้ 200 ตัน ขนาด 20x40 เซ็นติเมตรสูง 18 เซ็นติเมตร โดยสูตรที่แข็งแรงที่สุดจะใช้บล็อก นาโน 2 ก้อนแล้วเทคอนกรีตผสมเข้าไปด้วยนั้นจะรับน้ำหนักได้ 625 ตันต่อความยาว 1 เมตร ซึ่งจะมีความแข็งแรงมากและสามารถรับน้ำหนักบ้านได้ทั้งหลัง” นายชาติ ชายกล่าว

นายชาติชาย กล่าวต่อถึงเป้าหมายทางการตลาดว่าในระยะแรกจะเน้น จับกลุ่ม ลูกค้าต่างจังหวัดซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่หรือตามยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมืองเพราะ ในต่างจังหวัดไม่ใช่มีเพียงเฉพาะการสร้างบ้านเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการสร้าง รีสอร์ทอีกด้วย และในราวกลางปีนี้บริษัทยังมีแผนที่จะไปขยายตลาดในต่างประเทศ อาทิ ลาว พม่า เป็นต้น หลังจากนั้นในราวปลายปีจึงจะเข้ามาขยายฐานในกรุงเทพฯ เป็นลำดับต่อไปโดยเน้นกลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียม เป็นหลัก

ปัจจุบัน บริษัทมีตัวแทนใน 15 จังหวัด ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ โดยในส่วนของจังหวัดใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี อุดรธานี เป็นต้น ส่วนจังหวัดขนาดเล็ก อาทิ แพร่ เพชรบูรณ์ นครปฐม เชียงราย สุพรรณบุรี นนทบุรี เป็นต้น และภายในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มตัวแทนเป็น 30 รายทั่วประเทศ เช่น นครศรีธรรมราช อุทัยธานี เป็นต้น

“ในจังหวัดใหญ่ เรากำหนดให้มีตัวแทน 3 ราย ส่วนจังหวัดเล็กจะมีตัวแทนเพียงรายเดียว สำหรับการจำหน่ายของเราจะแบ่งเป็น 1. ราคา 100,000 บาท โดยลูกค้าจะได้บล็อก นาโน  87 ก้อนพร้อมสูตร 15 สูตร  2. ราคา 200,000 บาท โดยลูกค้าจะได้บล็อกนาโน 174 ก้อนพร้อมสูตร 15 สูตร 3. ราคา 400,000 บาท โดยลูกค้าจะได้บล็อกนาโน 348 ก้อนพร้อมสูตร 15 สูตร โดยส่วนใหญ่ลูกค้ากว่า 90% จะซื้อแบบราคา 400,000 บาท นอกจากนี้เรายังให้สิทธิ์แก่ตัวแทน โดยสามารถขายหรือมอบสิทธิในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกหลานได้อีกด้วย เพราะเราจะไม่มีการแต่งตั้งตัวแทนรายใหม่” นายชาติชายกล่าว

ส่วนแผนการ ดำเนินงานในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะสร้างโรงงานที่ อ.ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ ใช้งบในการดำเนินการประมาณ 3 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมกราคม ส่วนแรงงานที่ใช้ในการก่อสร้างคือนักศึกษาทั่วประเทศที่มาฝึกงานกับบริษัท คาดแล้วเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ และในเดือนเมษายนคาดว่าจะเริ่มส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้โรงงานดังกล่าวมีพื้นที่รวม 27 ไร่ ประกอบด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครัน รวมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาสินค้า โรงเรียนฝึกอบรมนักศึกษาจากทั่วประเทศ รีสอร์ทรองรับตัวแทนจากต่างประเทศ เป็นต้น

ด้านเป้าหมายเป้าหมายการเติบโตปีในปี 2556 นายชาติชายกล่าวว่าจะเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน ซึ่งหมายถึง องค์กรยั่งยืน ตัวแทนยั่งยืน สังคมยั่งยืนและประเทศยั่งยื่น ส่วนกระแสการตอบรับจากลูกค้า คาดว่าจะดีต่อเนื่อง โดยมีลูกค้าให้ความสนใจและมีคำถามผ่านทางเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 13,000 รายและคาดว่าสิ้นปีจะสมาชิกเพิ่มสูงขึ้นถึง 1 ล้านราย