คุณวิรัช ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TOG เปิดเผยว่าบริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2012 ด้านนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม (Best Investor Relations  Awards) เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2555 ที่ผ่านมา โดยบริษัทมีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัลเกียรติยศนี้ซึ่งเป็นการ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานและหน่วยงานเป็นอย่างมาก  รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ ให้กับลูกค้า เนื่องจากรางวัลนี้เป็นรางวัลที่สำคัญทำให้นักลงทุนรู้จักบริษัทมากยิ่งขึ้น

ทั้ง นี้รางวัลที่ได้รับสืบเนื่องจากทางบริษัทได้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของตลาด หลักทรัพย์ และประกอบกับการที่บริษัทมีหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์ และมีนโยบายชัดเจนในการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็น ให้กับสาธารณชนและนักลงทุนอย่างเท่าเทียมกัน โดยผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งมีการให้ข้อมูลและร่วมกิจกรรมกับทางตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดกิจกรรมให้บริษัทจดทะเบียนมีโอกาสได้ร่วมพบปะพูดคุย และให้ข้อมูลกับ ผู้ถือหุ้น สื่อมวลชน นักวิเคราะห์ และนักลงทุนทั่วไปผ่านทางสื่อหลายช่องทาง เช่น กิจกรรม Opportunity Day เป็นต้น ซึ่งบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นอย่างดีเสมอมา ในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มี

สำหรับรางวัลดังกล่าวจะจัดอยู่ในส่วนของกลุ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ 3 โดยมีทั้งหมด 4 กลุ่ม ทั้งนี้ในงานมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า       การกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

คุณวิรัช กล่าวต่อถึงแผนการลงทุนในปีนี้ว่าจะเป็นการเพิ่มการผลิตให้ต่อเนื่องใน ส่วนของ Standard Lens และ Premium  Lens ส่วนธุรกิจห้องแล็บมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20% จากเดิมที่มีอยู่เพื่อรองรับกำลังความต้องการของลูกค้าในออสเตรเลียและยุโรป เหนือ อาทิ กลุ่มสแกนดิเนเวีย เป็นต้น

ส่วนผลประกอบการในปีนี้ บริษัทวางเป้ายอดขายไว้ที่ 1,750 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 15%  และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายเพราะกำลังความต้องการของลูกค้ายังมีอย่างต่อ เนื่อง รวมทั้งลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของบริษัทที่ได้มาตรฐานสากล

ด้านการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในประเทศเวียดนาม ปัจจุบันอยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจา คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปีนี้  เนื่องจากประเทศเวียดนามมีลักษณะคล้ายประเทศไทยในอดีต  ซึ่งมีแนวโน้มของกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น และการเข้าสู่ AEC บริษัทมองว่าส่งผลดีเพราะทำให้บริษัทสามารถหาคู่ค้าหลักในเวียดนามได้และมี โอกาสที่ดีในด้านอื่นๆ อีกหลายอย่างในด้านการลงทุนในระยะยาว

ส่วน ค่าแรง 300 บาท/วัน มีผลกระทบกับบริษัทพอสมควร เนื่องจากบริษัทมีการจ้างพนักงานกว่า 1,600 คน จึงมีภาระค่าจ้างที่ต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหานี้บริษัทได้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้วโดยปีที่ผ่านมาได้เพิ่ม เครื่องจักรอัตโนมัติในส่วนการผลิตที่เป็น Mass Production และ ใช้กำลังการผลิตให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต  พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับพนักงานถึงปัญหาดังกล่าวเพื่อให้องค์กรและพนักงาน อยู่ร่วมกันด้วยดี และบริษัทมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนธุรกิจจากการผลิตเลนส์ธรรมดา มาเน้นการผลิตเลนส์แว่นตามูลค่าเพิ่ม และทำธุรกิจห้องแล็บเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับ TOG

“เรื่องของคนนี่ก็สำคัญมาก บริษัทพยายามใช้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เน้นการใช้คนให้น้อยลงและเพิ่มเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงเข้ามาช่วย และพยายามอบรมพนักงานให้ผลิตงานให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งผมมอง ว่าเป็นวิธีแก้ไขปัญหาในเรื่องค่าแรงได้อีกวิธีหนึ่ง” คุณวิรัชกล่าว

คุณวิรัช กล่าวต่อถึงสิ่งที่อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุน ได้แก่การดำเนินนโยบายการเงินและการคลังดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทมีเสถียรภาพ โดยอยากให้อยู่ในระดับนิ่งอย่างปัจจุบันนี้ต่อไป การส่งเสริมด้านทักษะแรงงานในด้านวิชาชีพอย่างจริงจังมากขึ้นเนื่อง จากขาดแคลนแรงงานในด้านสายอาชีพ การเข้ามาเป็นตัวกลางในการดูแลและเจรจาไกล่เกลี่ยให้กับทางเอกชนในเรื่องการ ประกันภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทประกันภัยในปีที่ผ่านมามักจะไม่รับประกันภัยเกี่ยวกับ อุทกภัย และภัยจากแผ่นดินไหว จึงอยากให้มาช่วยเอกชนด้านนี้อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้นเพราะเป็นผลต่อเนื่อง ระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมทั้งอยากให้รัฐบาลส่งเสริมในด้านวิจัยพัฒนาของเอกชน โดยอาจมีนโยบายช่วยเหลือทางด้านภาษีให้กับบริษัทที่ทำวิจัยพัฒนาเพราะการ วิจัยพัฒนามีค่าใช้จ่ายสูงและต้องทำต่อเนื่องโดยอาจไม่มีผลตอบแทนในระยะสั้น แต่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทไทยในระยะยาว

อนึ่ง บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ TOG ดำเนินธุรกิจผลิตเลนส์สายตา โดยจำหน่ายในประเทศ 5% และส่งออกต่างประเทศ 95% บริษัทมีธุรกิจหลัก 3 ประเภท ประกอบด้วย 1. ธุรกิจหล่อเลนส์ เป็นเลนส์ทั่วๆ ไป (Standard Lens) 2.ธุรกิจหล่อเลนส์ที่เป็นเลนส์มูลค่าเพิ่ม (Premium Lens) 3. ธุรกิจที่เป็นห้องแล็บทำเลนส์เป็นคู่ๆ โดยเป็นเลนส์ที่มีมูลค่าสูงที่ต้องสั่งทำพิเศษ

ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าทั่วโลก โดยลูกค้าหลักจะอยู่ในทวีปยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ยุโรปเหนือ สแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เป็นต้น รวมทั้งมีลูกค้าในแถบเอเชียอีกด้วย

วิสัยทัศน์

บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการผลิตเลนส์สายตาเพื่อให้ได้คุณภาพมาตรฐานสูงสุด ด้วยความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดการผลิตอีกทั้งให้ความสำคัญกับการวิจัยและ พัฒนา ตลอดจนการควบคุม ทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และคุณภาพของสินค้าและบริการ

บริษัท มีเป้าหมายที่จะขยายโอกาสการเจริญเติบโตทางธุรกิจ และเพิ่มผลประกอบการเพื่อผลประโยชน์ ของผู้ถือหุ้นและคู่ค้าทางธุรกิจ ในขณะที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองครบทุกความต้องการของลูกค้าได้ อย่างเหมาะสม