Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
ม.นวมินทราธิราชเปิด 10 หลักสูตรปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชก้าวสู่ปีที่ 10 ล่าสุดเปิดหลักสูตรใหม่เพิ่มประสิทธิภาพแก่นักศึกษาและผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ มุ่งมั่นแก้ปัญหาด้านสุขภาพคนเมืองในทุกมิติ พร้อมเดินหน้าก่อสร้างหลากหลายโครงการ หนุนการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (ชื่อเดิม มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร) เป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่เป็นหน่วยงานของรัฐอยู่ในกำกับของกรุงเทพมหานคร มีฐานะเป็นนิติบุคคล และเป็นสถาบันอุดมศึกษาห้องถิ่นแห่งแรกของประเทศไทย โดยได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้เน้นการจัดการศึกษา การบริการแก่สังคม ที่สอดคล้องกับความต้องการของคนเมือง การวิจัยเพื่อพัฒนาศาสตร์เขตเมือง และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาของกรุงเทพมหานคร ซึ่งในปัจจุบันมหาวิทยาลัยก้าวสู่ปีที่ 10 ที่เติบโตและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
“ผู้บริหารพยายามที่จะทำให้มหาวิทยาลัยมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด เนื่องด้วยเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของกรุงเทพมหานคร ข้อดีคือกระบวนการหรือขั้นตอนการบังคับบัญชาไม่มีความยุ่งยาก ดังนั้นจึงทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ทั้งเรื่องของการบริหารงบประมาณการเงิน การบริหารทรัพยากรบุคคล ถือว่าเป็นข้อดีที่จะช่วยให้มหาวิทยาลัยเติบโตอย่างต่อเนื่อง” รศ.นพ.อนันต์กล่าว
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชได้จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี รวมทั้งสิ้น 12 หลักสูตร ซึ่งนอกจากหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตแล้ว ในปี 2562 ได้เปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรีเพิ่ม 10 หลักสูตร เพื่อเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพให้กับสังคมและมุ่งมั่นแก้ปัญหาด้านสุขภาพคนเมืองในทุกมิติ ดังต่อไปนี้
1. หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ 2. หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขารังสีเทคนิค 3. หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์และห้องผ่าตัด 4. หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานพยาบาล 5. หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการสาธารณภัย 6. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการเมือง
7. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริการธุรกิจการบิน 8. หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาซ่อมบำรุงระบบรางและเอกการซ่อมบำรุงทรัพยากรอาคาร 9. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาเด็กปฐมวัย และ 10. หลักสูตรการจัดการบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรอาคาร
นอกจาก หลักสูตรการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีแล้ว มหาวิทยาลัยยังได้จัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโท 1 หลักสูตรคือ หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาและการจัดการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร
รศ.นพ.อนันต์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีโครงการก่อสร้างหลายโครงการ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2564 โดยงบประมาณในการก่อสร้างเกือบทุกโครงการ 80% ได้รับจากกรุงเทพมหานครและ 20% จะมาจากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย อาทิ 1. สถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัย โดยได้รับบริจาคที่ดิน 5 ไร่ครึ่ง บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงได้ทำการก่อสร้างสำนักงานอธิการบดี สภามหาวิทยาลัยและอาคารเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในทุกหลักสูตร โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในปลายปี 2563
2. อาคารพัชรกิติยาภา โดยได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10ซึ่งเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2561 โดยเป็นอาคารอำนวยการของคณะแพทย์ ภายในอาคารประกอบด้วยที่ตั้งสำนักงาน สนามกีฬาในร่มต่างๆ เพื่อดูแลในเรื่องของสุขภาพนักศึกษาและบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเปิดให้คนนอกเข้ามาใช้ได้ด้วย
3. อาคารทีปังกรรัศมีโชติ หรืออาคารผู้ป่วยนอก โดยได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งจะเป็นอาคารขนาดใหญ่มีชั้นใต้ดินจำนวน 3 ชั้น และบนดินจำนวน 7 ชั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดจะเปิดใช้เดือนกันยายน 2562 ต่อจากนั้นมีแผนดำเนินการสร้างเฟส 2 ในส่วนของที่จอดรถชั้นใต้ดิน 4. โครงการก่อสร้างหอพักแพทย์ พยาบาลและนักศึกษาเพิ่มเติม
5. อาคารพิพิธภัณฑ์ 2 แห่ง ประกอบด้วย อาคารวชิราวุธานุสรณ์ เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 6,9, และ10 พร้อมทั้งบอกเล่าถึงความเป็นมาในอดีตของวชิรพยาบาล และอาคารพิพิธภัณฑ์วังสามเสน เนื่องจากมีพื้นที่บางส่วนได้รับบริจาค จากหม่อมราชวงศ์เกษมสโมสร เกษมศรี (ที่ดิน 5 ไร่ครึ่ง บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา) ดังนั้นจึงสร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์เจ้าเกษมศรี ศุภโยค ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน รวมทั้ง บอกเล่าความเป็นมาของทุ่งสามเสน คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปีนี้
Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.
www.themewinter.comMake sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.