“อิตัลไทย” ประกาศศักยภาพความสำเร็จ 6 ทศวรรษ
กลุ่มบริษัทอิตัลไทยครบรอบ 60 ปีแห่งคุณภาพ ทุ่มงบกว่า 11,000 ลบ. เสริมแกร่งองค์กรเติบโตอย่างมั่นคง ตั้งเป้าเห็นผลตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 2562 ด้านอิตัลไทยอุตสาหกรรม เปิดตัวเครื่องจักรกลหนักวอลโว่รุ่นใหม่ EC300DL รุกตลาดนำเข้ารถขุดขนาด 30 ตัน ทุ่มงบ 9 ลบ. เปิดสาขา Italthai Center 2S เพิ่มอีก 3 สาขา เล็งเป้ารายได้ปีนี้ 4,500 ลบ.
คุณยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอิตัลไทย เปิดเผยว่า ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีการก่อตั้งกลุ่มบริษัทอิตัลไทย บริษัทมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเสริมสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปในอนาคตข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง โดยจะเร่งเครื่องการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทุ่มเงินอีก 11,000 ล้านบาท ลงทุนในส่วนของศูนย์บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ และโรงงาน ตลอดจนการบริการใหม่ๆ รวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพองค์กร ซึ่งทั้งหมดนี้บริษัทจะเดินหน้าทำให้เห็นผลตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2562
สำหรับธุรกิจของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย มี 2 ประเภทธุรกิจในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน ซึ่งทั้ง 2 ประเภทธุรกิจนี้ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย ได้แก่ “กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและบริการด้านวิศวกรรม” ที่เชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศและการพัฒนาประเทศไทย และ “กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบริการและไลฟ์สไตล์” ที่เชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวของไทยซึ่งสามารถแข่งขันได้กับทั่วโลก โดยบริษัทจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการเติบโตของธุรกิจทั้งสองส่วนเท่าเทียมกัน
“กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและบริการด้านวิศวกรรม เรามีธุรกิจจำหน่ายเครื่องจักรกลและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง โดยยอดขายของธุรกิจในส่วนนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเราตั้งเป้าจะผลักดันให้เติบโตขึ้นเป็น 8,000 ล้านบาทภายในปี 2562 และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นจาก 14% เป็น 20% โดยจะเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้าของเราซึ่งเป็นผู้รับเหมาชั้นนำของไทย
ส่วนธุรกิจบริการด้านวิศวกรรมของเรา ตั้งเป้าหมายผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้นจาก 3,200 ล้านบาท เป็น 7,600 ล้านบาทภายในเวลา 5 ปี โดยปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยผลักดันการเติบโตนี้ คือชื่อเสียงของธุรกิจวิศวกรรมของเรา ที่เราได้สร้างขึ้นในฐานะผู้รับเหมาระดับโลก ที่เชื่อถือได้และมีผลงานมาตรฐานสูงมากทั้งในด้านคุณภาพและความปลอดภัย จากชื่อเสียงที่เป็นที่ยอมรับดังกล่าว ทำให้เราสามารถยกระดับตัวเองขึ้นจากการเป็นผู้รับเหมาด้านวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม มาเป็นผู้รับเหมาที่ให้บริการแบบครบวงจร” คุณยุทธชัย กล่าว
คุณยุทธชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบริการและไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย เป็นกลุ่มธุรกิจที่บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้จำนวนโรงแรมในเครือออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ของกลุ่มอิตัลไทย เพิ่มขึ้นจาก 38 แห่งในปัจจุบัน เป็นมากกว่า 100 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพัก 18,500 ห้อง ใน 10 ประเทศภายในระยะเวลา 5 ปี โดยในปี 2558 นี้ จะมีการเปิดโรงแรมใหม่ในประเทศมัลดีฟส์ มาเลเซีย ศรีลังกา และจีน
นอกจากนี้ เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการและไลฟ์สไตล์กลุ่มบริษัทอิตัลไทยจะทุ่มงบลงทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท ในธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำยอดขายให้เติบโตขึ้นมากกว่า 2 เท่า ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า พร้อมกับตั้งเป้าหมายดันยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้นจาก 5,700 ล้านบาทในปี 2557 ให้เป็น 10,200 ล้านบาทในปี 2562
ด้านบริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด ในกลุ่มบริษัทอิตัลไทย ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ดังหลากหลายแบรนด์ทั่วโลกและให้บริการหลังการขาย อาทิ แบรนด์วอลโว่ (Volvo) ทาดาโน่ (Tadano) และเอสดีแอลจี (SDLG) ซึ่งล่าสุดได้รุกตลาดนำเข้ารถขุดขนาด 30 ตันโดยได้เปิดตัวเครื่องจักรกลหนักวอลโว่ รุ่น EC300DL อย่างเป็นทางการแล้วที่ผ่านมา
คุณชลิต ผดุงชีพ Senior Vice President บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า เครื่องจักรกลหนักวอลโว่ รุ่น EC300DL ทรงประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองทุกหน้างานได้อย่างแท้จริงด้วยกำลังเครื่องยนต์ใหม่ที่ปรับแรงขึ้นถึง 11% ซึ่งวอลโว่ EC300DL มีชื่อเสียงในเรื่องความแข็งแรง ปลอดภัย และสะดวกสบาย พร้อมกันนี้ผู้ใช้ยังวางใจได้ในเรื่องคุณภาพเครื่องจักรกลและบริการหลังการขายได้อย่างไม่ต้องกังวลเนื่องจากมีศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยกลุ่มลูกค้าหลักคืออุตสาหกรรมเหมือง รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วไป
สำหรับสาขาบริการ หรือ Italthai Center ในปัจจุบันมีทั้งหมด 14 สาขา ประกอบด้วย
1. Italthai Center 3S Services – Sale (machine sale with stockyard machinery), Service (with technician team and workshop) and Spare parts (inclusive of parts warehouse) ซึ่งมีทั้งหมด 6 สาขา อาทิ จังหวัดขอนแก่น, อุบลราชธานี, ลำปาง, ชลบุรี, สมุทรสาคร และเวียงจันทน์ สปป.ลาว
2. Italthai Center 2S Services–Sale (machine and parts sales), Service (without workshop nor stockyard machinery) ขณะนี้มีทั้งหมด 8 สาขา อาทิ จังหวัดพิษณุโลก, นครราชสีมา, พระนครศรีอยุธยา, ฉะเชิงเทรา, สุราษฎร์ธานี, สงขลา (หาดใหญ่), พังงา และปากเซ สปป.ลาว
ส่วนแผนการขยายสาขาในปีนี้ บริษัทจะเปิด Italthai Center 2S จำนวน 3 สาขา ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์, สุรินทร์ และสกลนคร โดยใช้งบในการดำเนินการสาขาละ 3 ล้านบาท รวมทั้งหมด 9 ล้านบาท ส่วนแผนในปี 2559 จะเปลี่ยนสาขาจาก Italthai Center 2S เป็น 3S ใช้งบในการดำเนินการ 25 ล้านบาท ในจังหวัดพิษณุโลกและจะเปิดสาขา Italthai Center 2S เพิ่มโดยใช้งบในการดำเนินการ 3 ล้านบาท ในจังหวัดจันทบุรี
ด้านแผนในปี 2560 มีแผนที่จะเปลี่ยนสาขาจาก Italthai Center 2S เป็น 3S ใช้งบในการดำเนินการ 25 ล้านบาท ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะเปิดสาขา Italthai Center 2S เพิ่มโดยใช้งบในการดำเนินการ 3 ล้านบาท ในจังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้ในปี 2561 มีแผนที่จะเปลี่ยนสาขาจาก Italthai Center 2S เป็น 3S ใช้งบในการดำเนินการ 25 ล้านบาท ในจังหวัดนครราชสีมา และจะเปิดสาขา Italthai Center 2S เพิ่ม โดยใช้งบในการดำเนินการ 3 ล้านบาท ในจังหวัดอุดรธานี นอกจากนี้ในปี 2562 และจะเปิดสาขา Italthai Center 2S เพิ่มโดยใช้งบในการดำเนินการ 3 ล้านบาท ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หรือจังหวัดเพชรบุรี
“หลักเกณฑ์ในการพิจารณาในการเปิดสาขา จะดูจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป็นหลักว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด ซึ่งในเบื้องต้นจะเปิดแบบ Italthai Center 2S ก่อน ถ้าได้รับการตอบรับดีก็จะเปลี่ยนมาเป็น Italthai Center 3S ในอนาคต เพื่อตอบโจทย์การบริการให้ลูกค้าได้อย่างครบวงจรมากขึ้น
ในปี 2558 เราพยายามขยายสาขาให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นและมีการจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามสาขาเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักมากยิ่งขึ้นว่ามีเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามานำเสนอให้พิจารณา และสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่า เรานำแต่สิ่งที่ดีมาให้ รวมทั้งพยายามมองหาลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้เช่นกัน” คุณชลิต กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 2557 ที่ผ่านมาของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 3,800 ล้านบาท ส่วนในปี 2558 บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท ด้านเป้าผลประกอบการที่ สปป.ลาวตั้งไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทจะมีการเปิดสาขาเพิ่มรองรับการบริการของลูกค้า ประกอบกับในปัจจุบันมี Blacklog อยู่ประมาณ 200 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
คุณชลิต กล่าวต่อถึงจุดเด่นของบริษัทว่า จะเน้นด้านการบริการเป็นหลักและบริการแบบครบวงจรเพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดีที่สุดและรถที่ประหยัดน้ำมัน รวมทั้งมีความแข็งแรงทนทานสามารถเชื่อมั่นได้ว่าเมื่อซื้อรถจากบริษัทไปแล้ว ลูกค้าไม่ต้องกังวลเพราะบริษัทมีการบริการหลังการขายให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าเมื่อมาใช้บริการกับบริษัท
ด้านหลักการบริหาร จะเน้นเรื่องคนเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าพนักงานที่มีประสบการณ์ในการดูแลลูกค้าจะสามารถรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้ และจะหาลูกค้ารายใหม่เข้ามาด้วยได้เช่นกัน เพราะพนักงานเป็นด่านหน้าในการพบลูกค้า ดังนั้นจึงเน้นให้พนักงานมี Service Mind ที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงานบริการ