จอห์นสัน คอนโทรลส์เดินแผนบุกตลาดเต็มพิกัด
จอห์นสัน คอนโทรลส์ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เพิ่มอีก 15% วาง 3 กลยุทธ์ผลักดันสู่ความสำเร็จบวกรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตหลังผนึกฮิตาชิ แอพพลายแอนซ์เซส รุกตลาดเครื่องปรับอากาศ หนุนขึ้นแท่นผู้นำในตลาดโลก
คุณอุทัย โลหชิตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จอห์นสัน คอนโทรลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเพิ่มจากปีที่ผ่านมาประมาณ 15% โดยผลประกอบการในช่วง 6 เดือนของปีนี้ (ตุลาคม 2557-มีนาคม 2558) ยอดขายเติบโตเพิ่มประมาณ 10% และผลกำไรเติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 เพื่อผลักดันให้เป้าหมายดังกล่าวบรรลุผล ซึ่งบริษัทจะเน้นในส่วนธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 1. การขยายฐานการตลาด โดยเพิ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้าในส่วนเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กมากยิ่งขึ้น 2. การดำเนินการธุรกิจสาขาอย่างเข้มแข็ง 3. การขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประหยัดพลังงาน หรือ Energy Efficiency โดยมุ่งเน้นในส่วนเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ (Chiller) ทั้งในส่วนของโครงการใหม่ และกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีความต้องการเปลี่ยนระบบที่มีการใช้งานมานานแล้ว รวมทั้งการอัพเกรดเครื่องเดิมที่มีประสิทธิภาพน้อยลง
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทจะเข้าไปดำเนินการเปลี่ยนด้วยระบบ YMC² (YORK MAGNETIC BEARING CHILLER) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก และจะช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ล่าสุด บริษัทได้รับงานใหญ่ๆ หลายงานจากโรงพยาบาลระดับแนวหน้า อีกทั้งยังได้รับงานจากห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่างเช่น กลุ่มเซ็นทรัล เป็นต้น
“เราตั้งเป้ายอดขายในปีนี้เพิ่มจากปีที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ หรืออาจกล่าวได้ว่าเพื่อชดเชยยอดขายในปี 2557 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 10-15% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง เรามีความมั่นใจว่าเป้ายอดขายดังกล่าวมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะได้มีการกำหนดแผนกลยุทธ์การดำเนินงานที่ชัดเจนตามที่ได้กล่าวไปแล้วเบื้องต้น
ในปีนี้เราให้น้ำหนักในการทำตลาดทั้ง 3 ส่วนเท่าๆ กัน แต่ตลาดที่เรามองว่ามีการเติบโตเร็วคือตลาดการปรับปรุงคุณภาพพลังงาน หรือ Energy Efficiency ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนเปลี่ยนเครื่องโดยใช้เงินลงทุน 100 บาท แต่สามารถประหยัดไฟฟ้าได้ปีละ 30-40 บาท นั่นหมายความว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 3 ปี ซึ่งตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่มากสำหรับประเทศไทย มีเครื่องปรับอากาศหลากหลายยี่ห้อ และตลาดเริ่มขยับมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปัจจุบันกระแสอนุรักษ์พลังงานกำลังมาแรง จึงเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนให้ธุรกิจนี้เติบโตมากยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของเราที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างมาก” คุณอุทัย กล่าว
นอกจากนี้ แผนการการขยายฐานการตลาด โดยเพิ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้าในส่วนเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคตอีกด้วย เนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา จอห์นสัน คอนโทรลส์และฮิตาชิ แอพพลายแอนซ์เซส ได้ร่วมลงนามเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระดับโลก โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศอย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศ VRF (Variable Refrigerant Flow) เครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย และเครื่องทำความเย็นแบบดูดซึมที่ใช้เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ชั้นนำ เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์ของจอห์นสัน คอนโทรลส์ที่มีอยู่เดิม ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกได้เป็นอย่างดี โดยจอห์นสัน คอนโทรลส์ถือหุ้น 60%
ทั้งนี้ บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการเติบโตจากการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้จอห์นสัน คอนโทรลส์ ก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ รวมทั้งจะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อนำเสนอให้แก่ลูกค้าคนไทยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก รวมไปถึงเครื่องปรับอากาศขนาดกลาง เป็นต้น โดยจะเป็นการเสริมทัพสินค้าและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทในระยะยาว
สำหรับจุดเด่นของบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามาตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจคือเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบริการและโซลูชั่นต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดต้นทุนการปฏิบัติงานในอาคาร หรือ Building Efficiency และเป็นผู้นำทางด้านการจำหน่ายอุปกรณ์ โดยมีความโดดเด่นในเรื่องของเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กซึ่งเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจำหน่ายภายใต้แบรนด์ York และเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ที่มีเทคโนโลยีที่สูงที่สุด ซึ่งในปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำและมีมาร์เก็ตแชร์มากที่สุดในตลาด รวมไปถึงการเป็นผู้นำในระบบอัตโนมัติ (Building Automation System) อีกทั้งยังมีธุรกิจห้องเย็นขนาดใหญ่ อย่างเช่น ห้องทำความเย็นขนาดติดลบ 38 องศา สำหรับธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจอื่นๆ
“เรามีความชำนาญในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เป็นอย่างมากและมีธุรกิจที่หลากหลาย โดยสิ่งเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เรายังเน้นในเรื่องการบริการที่เป็นเลิศ เรามีสาขาจำหน่ายและบริการ 6-7 สาขาทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสาขาเชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่, พัทยา, ขอนแก่น และโคราช และจากการสำรวจพบว่าสิ่งที่ลูกค้าเลือกใช้บริการของเรา เหตุผลหลักๆ มี 3 ข้อ คือ 1. สินค้าที่มีคุณภาพ 2. การบริการที่ยอดเยี่ยม และ 3. เทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง 3 ข้อนี้ เป็นหัวใจหลักของเรา” คุณอุทัย กล่าว