November 22, 2024

Biz Focus Industry Issue 119, December 2022

User Rating: 5 / 5

Star ActiveStar ActiveStar ActiveStar ActiveStar Active
 

สยามมิชลิน ปักกลยุทธ์เสริมแกร่งธุรกิจ ป้อนสุดยอดนวัตกรรมยาง 2 รุ่น รองรับตลาด EV  

สยามมิชลิน เผยภาพรวมปี 2565 ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ขณะที่ปี 2566 แม้ต้องเผชิญความท้าทายต่างๆ ทางเศรษฐกิจ แต่มิชลินยังคงมุ่งมั่นสร้างการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การรักษาสมดุลที่ยั่งยืนระหว่าง การสร้างผลกำไร การสร้างความสัมพันธ์กับผู้คน และการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของกลุ่มรถไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับจากรัฐ-เอกชน

ด้วยยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดโดยเฉพาะถึง 2 รุ่น MICHELIN e.PRIMACY ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริดที่มอบประสบการณ์ขับขี่แบบพรีเมียม นุ่มเงียบ เพิ่มระยะทางต่อรอบการชาร์จของแบตเตอรี่และมีอายุการใช้งานยาวนานปลอดภัย มั่นใจตั้งแต่วันแรกที่ใช้จนถึงวันที่เปลี่ยนรอบถัดไป และยาง MICHELIN PILOT SPORT EV ยางสปอร์ตรักษ์โลกที่ออกแบบพิเศษสำหรับรถสปอร์ตไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่เน้นการควบคุมอย่างแม่นยำ ลดเสียงรบกวนจากยางสู่ห้องโดยสาย พร้อมอายุการใช้งานยาวนาน

คุณนันทิยา พิทักษ์วงษ์ดีงาม ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C ประเทศไทย บริษัท สยามมิชลิน จำกัด

คุณนันทิยา พิทักษ์วงษ์ดีงาม ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C ประเทศไทย บริษัท สยามมิชลิน จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลก กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 30 ปี ที่สยามมิชลินดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนอกเหนือจากยางอันเป็นธุรกิจหลักแล้ว มิชลินยังมีธุรกิจด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจค้นคว้าและจำหน่ายวัตถุดิบในการทำยางที่เป็น Non Toxic Material Based ธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ ธุรกิจการท่องเที่ยว ภายใต้แบรนด์มิชลินไกด์ และอื่นๆ โดยทุกธุรกิจของเราสามารถสร้างความคล่องตัว และเติบโตไปอย่างยั่งยืนพร้อมกันได้อย่างดี

สำหรับภาพรวมในปี 2565 เป็นที่ทราบกันดีว่าปีนี้ GDP ของประเทศไทยโตขึ้น ส่งผลให้ทุกเซ็กเม้นต์ของตลาดยางมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากอิมแพ็คกับการท่องเที่ยว และภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นด้านการส่งออกของมิชลินยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ยางที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก อย่างยางรถบรรทุกขนาดเล็กเชิงพาณิชย์มีโอกาสที่ดีตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ดีเหมือนเดิม เพราะจีนยังมีการล็อกดาวน์อยู่ ทำให้เราได้รับผลกระทบอยู่บ้างสำหรับยางรถยนต์ หรือยางรถตู้ที่ใช้กับการท่องเที่ยว

            “ต้องบอกว่าปีนี้ไม่ง่ายเลย ผู้บริโภคอาจรู้สึกว่าค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพสูงขึ้นด้วยผลพวงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ราคาต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นมาก ทำให้บริษัทยางแบรนด์ชั้นนำเกือบทุกแบรนด์จำเป็นต้องปรับราคาขึ้น เพื่อที่จะสร้างสมดุลระหว่างการรักษาคุณภาพการผลิตของยาง การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และการสร้างผลกำไร แต่อย่างไรก็ตามปี 2565 เราสามารถดำเนินการต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ยอดขายต่างๆ เป็นบวกและเติบโตขึ้น” คุณนันทิยากล่าว

ขณะที่เป้าหมายและทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 คุณนันทิยา กล่าวว่า เป้าหมายของมิชลินคือการเติบโตเท่ากับตลาด เพื่อให้สามารถรักษามาร์เก็ตแชร์ไว้ได้ในระดับที่ดี ทั้งนี้ การดำเนินงานในปีหน้า แน่นอนว่าธุรกิจจะเจอความท้าทายที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย และทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดเนื่องจากวัตถุดิบบางอย่างต้องนำเข้าจากรัสเซียและยูเครน รวมไปถึงความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้แต่ละบริษัทวางเป้าหมายได้ยาก

          อย่างไรก็ตาม มิชลินจะยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์หลักของเรา คือการสร้างสมดุลเพื่อความยั่งยืนระหว่าง Employee (พนักงาน) Profit (ผลกำไร) และ Environment (สิ่งแวดล้อม) ซึ่งจากแข่งขันทางธุรกิจที่คาดว่าจะสูงขึ้นในปีหน้า อาจทำให้การดำเนินงานของมิชลินเข้มข้นขึ้น ดังนั้น สิ่งที่บริษัทต้องทำคือการพัฒนาศักยภาพพนักงานของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง Digitalization การนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และเรื่อง Data-Driven ที่มิชลินให้ความสำคัญมาก ซึ่งปัจจุบันเราได้มีการร่วมกับพาร์ทเนอร์ทำ CRM : Customer Relationship Management โดยเก็บข้อมูลต่างๆ จากผู้บริโภค ทำให้เราสามารถปรับปรุง พัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อสนองต่อผู้บริโภค และกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างตรงจุด

ส่วนด้านผลกำไร ปี 2566 เรามั่นใจว่ายอดขายของมิชลินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ แผนธุรกิจในปี 2566 มิชลินจะเน้นเข้าไปเจาะตลาดในกลุ่มที่มีการแข่งขันไม่สูงมากนัก อย่างเช่น กลุ่มรถไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ จากฝั่งยุโรป และกลุ่มรถไฟฟ้า (EV) ที่เป็น Blue Ocean ซึ่งจะเป็นตัวไฮไลท์ของปี 2566 นี้

“สิ่งที่น่าสนใจในปีหน้า คือ นวัตกรรมยางล่าสุดสำหรับรถไฟฟ้าและไฮบริดโดยเ​ฉพาะ อย่างเช่น MICHELIN PILOT SPORT EV และ MICHELIN e.PRIMACY ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าปัจจุบัน ตลาดรถไฟฟ้าเริ่มขยายมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ยังมีความกังวลของผู้บริโภคในเรื่องแท่นชาร์จ หรือสถานีจ่ายไฟ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถไฟฟ้าเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ผนวกกับพลังบวกจากภาครัฐในแง่ของภาษีนำเข้ารถ ทำให้ผู้บริโภคต้องการทางเลือกใหม่ๆ และรถไฟฟ้าก็กลายเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้น ดังนั้นมิชลินเชื่อว่า รถไฟฟ้าจะเป็น Source of Growth ของเราในอนาคต” คุณนันทิยากล่าว

จุดเด่นของยาง 2 รุ่นดังกล่าว เป็นยางที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เนื่องจากรถพลังงานไฟฟ้าจะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้มีน้ำหนักเยอะ มีแรงบิดที่สูงทำให้ยางอาจจะสึกไม่เรียบ และไม่มีเสียงเครื่องยนต์รบกวนเข้ามาในห้องโดยสาร ซึ่งยางมิชลินถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ยาวนานแล้ว ยังถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ด้วยนวัตกรรรมการออกแบบ ผสานกับสูตรเนื้อยางพิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะมิชลินที่จะช่วยให้สามารถควบคุมรถได้แม่นยำ นุ่มเงียบ เพิ่มระยะทางต่อการชาร์จในแต่ละรอบ และอายุการใช้งานยาวนาน ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ที่มาจากการเปลี่ยนยางบ่อยเกินจำเป็นได้อีกด้วย

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ คุณนันทิยา กล่าวว่า ในอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอด โดยเฉพาะรถไฟฟ้า ที่กำลังเป็นกระแส ซึ่งน่าจะโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์หลายๆ แห่งทั้งหน้าใหม่และเก่าหันมาให้ความสนใจรถไฟฟ้ากันมากขึ้น ทำให้ภาพรวมตลาดรถไฟฟ้าเติบโต และแน่นอนว่าการเข้ามาของกลุ่มรถไฟฟ้าจะสร้างอิมแพ็คให้กับตลาดยางของเราอย่างดีเช่นกัน เพราะยิ่งมีผู้เล่นเข้ามามากเท่าใด ภาวะการแข่งขันก็ยิ่งมากขึ้น ซึ่งการแข่งขันที่จะเห็นได้ชัดคือเรื่อง Performance หรือดีไซน์ของรถ ในปี 2566 การผลิตยางมีแนวโน้มที่จะถูกเปลี่ยนจากยางขอบ 15-16 นิ้ว เป็นยางขอบใหญ่ 17-19 นิ้ว เพื่อรองรับ Performance ของรถที่ดีขึ้นและด้วยขนาดของยางที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลถึงมูลค่าของตลาดยางให้เพิ่มขึ้นด้วย

          “นอกจากนี้ ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งในการเติบโตของมิชลิน เนื่องจากผู้คนเริ่มหันมาสนใจโลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น การเลือกซื้อสินค้าสักชิ้น ผู้บริโภคต้องคิดแล้วว่าสินค้าเหล่านั้นเป็นมิตรกับโลกหรือไม่ รถไฟฟ้าก็เช่นกัน เหตุผลที่คนเลือกใช้ไม่ใช่แค่ภาวะน้ำมันแพงเท่านั้น แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญคือการซื้อรถไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมิชลินสนับสนุนและมุ่งมั่นพัฒนายางโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเช่นกัน เราทำให้ยางมิชลินสามารถรีไซเคิลและใช้วัสดุที่ยั่งยืน 100% ในปี 2593 อันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้ผู้บริโภคพิจารณาว่ายางของมิชลินนอกจากจะมีสมรรถนะที่ดีเยี่ยมยาวนานแล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ถึงแม้วันนี้จะรีไซเคิลได้สูงสุดเพียง 58% แต่เราตั้งเป้าไว้ว่า เราจะใช้วัสดุที่ยั่งยืนและสามารถรีไซเคิลทั้งหมดได้ใน 100% ในปี 2593” คุณนันทิยากล่าว

          คุณนันทิยา กล่าวเพิ่มเติมถึงรางวัลความสำเร็จของมิชลินด้วยว่า เมื่อกลางปี 2565 ที่ผ่านมา มิชลินได้รับความสำเร็จอย่างดียิ่งในเรื่องของนวัตกรรม โดยสามารถคว้ารางวัล TOP INNOVATIVE COMPANY AWARD ประจำปี 2565 ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร BUSINESS+ ได้ ซึ่งรางวัลนี้เป็นรางวัลที่มอบให้กับสุดยอดองค์กรธุรกิจไทยที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและมีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน ภายใต้แนวคิด “The Next Normal Transformation for Business Sustainability การปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในยุคปกติครั้งใหม่” โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยซึ่งได้จัดทำการสำรวจด้านผลการดำเนินงานขององค์กร การประกอบธุรกิจที่มีความโดดเด่น มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ การที่มิชลินได้รับรางวัลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่าเราเชี่ยวชาญอย่างยิ่งในเรื่องของ Innovation โดยเรามีนวัตกรรมที่เรียกว่า “Performance made to last” จากความมุ่งมั่น และใส่ใจในการพัฒนายางให้มีสมรรถนะดีเยี่ยม ใช้งานได้ยาวนาน ปลอดภัย มั่นใจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่เปลี่ยนยางรอบถัดไป ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่ดีตลอดช่วงเวลาที่ใช้ยางมิชลิน และไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อยเกินความจำเป็น ซึ่งถือเป็นการช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการกำจัดขยะยางที่เกินจำเป็นให้กับโลกใบนี้ด้วย

www.michelin.co.th 

 

 

 

Page Visitor

012534218
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
7204
18787
95511
342009
432245
12534218
Your IP: 3.133.137.10
2024-11-22 08:13
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.