คุณจุติพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS

คุณจุติพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้นำธุรกิจ Security Printing รายใหญ่ของประเทศ กล่าวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบให้กับหลายภาคส่วน ซึ่ง TKS ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะใน Q2/2563 แต่หลังจากที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ในครึ่งปีหลัง Q3-4/2563 การดำเนินธุรกิจจึงเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ Financial Performance มีแนวโน้มกลับมาดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ที่ทำให้ TKS ได้กลับมาพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งภายในองค์กรให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งที่ผ่านมา TKS มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านอย่างรวดเร็ว ทำให้การดำเนินธุรกิจต้องมองภาพรวมของกลุ่มมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการรับพิมพ์แบบฟอร์มต่างๆ ตลอดจนสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท (ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์) โดยได้ควบรวมกับ บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP ที่ประกอบธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือเข้าด้วยกันหรือจัดไว้ภายในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ TKS ได้เข้าถือหุ้นของ TBSP แล้วถึง 99%

การปรับโครงสร้างธุรกิจดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากในปัจจุบัน โลกมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว กิจกรรมต่างๆ ก้าวสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นการ Synergy ของทั้ง 2 บริษัทที่มีความแข็งแกร่งและจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเชี่ยวชาญด้านการพิมพ์ ชนิดของผลิตภัณฑ์ ตลาดลูกค้า กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และช่องทางการจัดจำหน่าย ถือเป็นการทำให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินกิจการและการบริหารงานของกลุ่มบริษัท สามารถเพิ่มศักยภาพและสร้างความเข็มแข็งให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้

“ในการ Synergy ร่วมกัน ต้องบอกเลยว่าในปีนี้เราขยับเร็วมาก เนื่องจากเราอาศัยช่วงโควิด-19 ในการทำ Internal Restructuring ซึ่งเราเปลี่ยนค่อนข้างเยอะ คือแน่นอนมันมีความท้าทายในเรื่องของคน ต้องยอมรับว่าการเติบโตของ TKS และ TBSP แตกต่างกัน แต่วันนี้ถ้าเรานำจุดแข็งของทั้งคู่มาปรับกันได้ มันน่าจะไปได้เร็วและราบรื่นแน่นอน ส่วนระยะเวลานั้นเราคาดว่าการผนึกกำลังครั้งนี้น่าจะสมบูรณ์ที่สุดไม่เกิน 3 ปี เพราะภายใน 1 ปี ก็ค่อนข้างเป็นรูปเป็นร่างแล้ว” คุณจุติพันธุ์กล่าว

คุณจุติพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 TKS ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของ Internal Restructuring ที่ต้องพยายามผนวกกันกับ TBSP ในเรื่องของจุดแข็งให้สมบูรณ์ที่สุด ส่วนธุรกิจของ TKS ในปีหน้าที่โฟกัสจะเป็นเรื่องของ Label และ Packaging เนื่องจากมองเห็นว่าในอนาคตจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาก โดยเฉพาะแพ็กเกจจิ้งซึ่งเป็นเทรนด์ที่มีความต้องการใช้งานสูง อีกทั้งยังพิจารณาที่จะทำคลังสินค้า ซึ่งบริษัทเริ่มมีฐานลูกค้าแล้วในกลุ่ม B2B โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอีกทางในอนาคตด้วยจากปัจจัยข้างต้น ส่วนในเชิงปริ้นท์โซลูชัน TKS จะเริ่มมองภาพใหญ่มากขึ้น คือไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งพิมพ์เท่านั้น แต่จะพยายามตอบโจทย์ให้ครบวงจร เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ สามารถสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าได้

คุณจุติพันธุ์ กล่าวต่อถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ว่า ณ วันนี้ ด้วยผลจากสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เรื่องของดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นเป็นเทรนด์ที่เร็วขึ้น จากเดิมที่ผู้คนยังไม่ได้รับสารทุกอย่างผ่านมือถือ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ความสนใจเรื่องของสิ่งพิมพ์ต่างๆ มีน้อยลง แต่ทั้งนี้ ในการดำเนินงานของ TKS ธุรกิจสิ่งพิมพ์ยังเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานอยู่ เพียงแต่ต้องแยกประเภทกัน และในเรื่องของปริ้นท์อาจมีสัดส่วนที่น้อยลง

“อย่างไรก็ตามหากมองอีกหนึ่งกระแสในเรื่องของกระดาษที่เริ่มกลับมา ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อมองย้อนกลับไปคนจะแบนกระดาษ เพราะคิดว่าต้องตัดต้นไม้และทำให้เกิดโลกร้อน ขณะที่ในตอนนี้เทรนด์คือให้กลับมาใช้กระดาษเหมือนเดิมเพื่อทดแทนการใช้พลาสติก ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าวันนี้เรื่องของกระดาษมันเป็นเรื่อง Sustainable ที่ปัจจุบันมีวิธีในการปลูกต้นไม้ที่ไม่ได้กระทบกับโลกแล้ว กลายเป็นว่าพลาสติกต่างหากที่ย่อยสลายไม่ได้ เลยต้องกลับมาใช้กระดาษที่เป็นธรรมชาติแทน ฉะนั้นจะเห็นเลยว่า Material เทรนด์มันเริ่มเปลี่ยนไป ดังนั้น ภาพรวมในอนาคตของสิ่งพิมพ์มันอาจจะบวกยิ่งขึ้น ตามเทรนด์กระดาษที่กลับมานิยม และน่าจะโตต่อไปได้แน่นอน” คุณจุติพันธุ์กล่าว

ทั้งนี้ TKS ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 65 ปี จากการทำอุปกรณ์เครื่องเขียน จนก้าวสู่การทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ กระทั่งกลายเป็น Top 3 ในเรื่อง Security Printing ด้านการให้บริการ และด้านโซลูชันที่ครบวงจร ซึ่งที่ผ่านมา TKS ได้รับความสำเร็จต่างๆ มากมาย ถือเป็นโรงพิมพ์โรงแรกที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 รวมทั้งมาตรฐานอื่นๆ ที่การันตีความสำเร็จ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้

ล่าสุดนี้ TKS ได้รับมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2563 “Eco Innovation Forum 2020” ที่จัดขึ้นโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมาตรฐานดังกล่าว TKS ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาโรงงาน ให้มีระบบบริหารจัดการที่ดี มีความปลอดภัย มีการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มคุณค่า ก่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด รวมทั้งสามารถเกื้อกูลกับสังคมและผู้มีส่วนได้เสียโดยรอบได้

“จุดเริ่มต้นของเราเริ่มจากสถานที่เล็กๆ ในเมือง คือเรามีโรงงานอยู่ที่เพชรบุรี แล้วเราก็ค่อยๆ ขยับขยายและย้ายมาที่โคกขาม สมุทรสาคร ทั้งในส่วนของออฟฟิศและโรงงาน โดยไอเดียของคุณพ่อในตอนนั้น คืออยากให้ Factory ดูร่มรื่น สไตล์รีสอร์ท เราจึงพยายามทำทุกอย่างให้ Factory ออกมาดีที่สุด จนทำให้เราต้องคำนึงถึงความสำคัญในตัวแปรอื่นๆ ตามมาด้วย อย่างเช่นเรื่องของ Green Factory ที่เป็นเหมือน Next Step ของ TKS เพราะเราเป็นบริษัทแรกๆ ที่ได้ ISO 9001 อีกทั้งยังได้รับการรับรอง ISO 14001 ด้านของสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น พอมันมีอะไรเพิ่มเติมที่เราน่าจะทำได้ เราก็พยายามที่จะทำ จนปีนี้เราได้รับมาตรฐาน ECO FACTORY นี้มา” คุณจุติพันธุ์กล่าว

นอกจากเรื่องมาตรฐานและความสำเร็จต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่บริษัทคำนึงถึงอย่างยิ่งคือการทำงานที่เป็นระบบและมีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ TKS พยายาม Implement ในเรื่องของระบบมาตรฐาน ISO มาโดยตลอด ฉะนั้น ความสำเร็จที่บริษัทได้รับในวันนี้ คือความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทชั้นนำของประเทศ อย่างเช่น เทสโก้ โลตัส, ซีพี, เซเว่น อีเลฟเว่น, เอไอเอส และธนาคารต่างๆ เป็นต้น

สำหรับกลยุทธ์ในการนำธุรกิจก้าวสู่ความสำเร็จ คุณจุติพันธุ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ จากสถานการณ์ ณ วันนี้คงเป็นเรื่องของการมีทีมงานหรือบุคลากรที่ดีมีศักยภาพ สามารถเข้าใจในทิศทางของบริษัท หรือ Direction ที่บริษัทจะก้าวไปในอนาคต โดยเฉพาะหลังจากที่ TKS ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ ควบรวมกับ TBSP ทำให้มีพนักที่ต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น เรื่องของทีมงานจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ควรจะโฟกัส นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง แม้ในปัจจุบันธุรกิจสิ่งพิมพ์จะหดตัวลง แต่การที่บริษัทจะดำเนินต่อไปได้คือต้องต่อยอดจาก Existing Business โดยการชาเร้นจ์ในการยืดหยุ่นและเปิดรับการเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งบริษัทพยายามทำอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ 10 ปีที่ผ่านมาของ TKS