Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
“ดีคอน” ฉลองความสำเร็จ 17 ปีbอัดงบ 390 ลบ. ลุย 2 โปรเจคปีมะเส็ง
ดีคอนโปรดักส์ ประกาศศักยภาพรับ 17 ปี ทุ่มงบ 390 ลบ. ลงทุนเพิ่มเสริมรุ่งปีงูเล็กทั้งอสังหาริมทรัพย์และสร้างโรงงานใหม่ เล็งเป้าปีนี้ 1,300 ลบ. พร้อมรับ AEC เดินหน้าขยายตลาดในภาคอีสานบุกประเทศเพื่อนบ้าน
คุณวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด(มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นพื้นและเสาเข็มอัดแรงภายใต้แบรนด์ “DCON” กล่าวถึงหลักการบริหารงานที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมายาวนานและครบรอบ 17 ปีในปีนี้ โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ว่าสิ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จได้นั้นคือการที่บริษัทมีการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากที่สุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
รวมทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความจริงใจต่อลูกค้าและทำทุกอย่างตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์บริษัท จะได้สิ่งที่ดีและมีมาตรฐานในเรื่องคุณภาพตอบแทนกลับไปเสมอ นอกจากนี้ตนจะสอนพนักงานทุกคนเสมอว่าต้องสู้ไม่ถอย ไม่เสร็จ ไม่เลิกรา ซึ่งทุกวันนี้ตนก็ยังสอนพนักงานเสมอในเรื่องการต่อสู้กับทุกสิ่งที่เข้ามาและต้องพร้อมสู้เสมอ
คุณวิทวัส กล่าวต่อถึงแผนการลงทุนในปี 2556 ว่าประกอบด้วย 2 แผนงานดังนี้ 1. แผนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 2. แผนการลงทุนก่อสร้างโรงงานเพิ่ม โดยในส่วนของแผนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์คือการก่อสร้างคอนโดมิเนียมภายใต้ชื่อ โครงการดีซิโอ้ (Dzio) จำนวน 799 ยูนิต ซึ่งตั้งอยู่ที่งามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร โดยใช้งบประมาณในการดำเนินก่อสร้าง 250 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในระหว่างขั้นตอนการยื่นขออนุมัติการก่อสร้างจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนกรกฎาคมนี้ และตั้งเป้าก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557
“ในระหว่างที่ยื่นขออนุมัติการก่อสร้างจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เราจะสร้างห้องตัวอย่าง 3 ห้องให้ลูกค้าได้เข้ามาดูแบบตัวอย่าง คาดว่าจะสร้างเสร็จในเดือนเมษายนนี้ หลังจากนั้นจะเริ่มเปิดขายทันที และคาดว่าภายใน 4 เดือนจะขายได้หมด โดยจะเริ่มเปิดให้จองตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป ในราคายูนิตละ 1 ล้านบาท มีทั้งหมด 799 ยูนิต ซึ่งถ้าปิดการขายได้หมดในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 800-900 ล้านบาท” นายวิทวัสกล่าว
ด้านแผนการลงทุนก่อสร้างโรงงานบริษัทมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานเพิ่มอีก 2 แห่ง โดยจะเพิ่มจากปัจจุบันที่บริษัทมีสาขาแผ่นพื้นใน 3 ภาค ได้แก่ 1. ภาคใต้ ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี 2. ภาคกลาง ตั้งอยู่ที่อำเภอพัฒนานิคม จ.ลพบุรี 3. ภาคเหนือ ตั้งอยู่ที่ บ.ร่มโพธิ์โปรดักส์ จํากัด จ.ลำพูน และปัจจุบันบริษัทนับเป็นผู้จำหน่ายแผ่นพื้นและเสาเข็มอัดแรงสำหรับบ้านพักอาศัยรายใหญ่สุดในประเทศ
โดยแผนการก่อสร้างโรงงานแห่งแรกจะตั้งอยู่ใน จ.ระยอง และนับเป็นโรงงานแห่งแรกที่ตั้งในภาคตะวันออก ซึ่งบริษัทได้เล็งไว้นานแล้วเนื่องจาก จ.ระยอง ในอนาคตน่าจะมีการเติบโตที่ดีเพราะอยู่ใกล้พัทยาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยทำเลที่ตั้งของโรงงานอยู่กึ่งกลางระหว่างระยองและพัทยา ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 70 ล้านบาท บนพื้นที่ทั้งหมด 24 ไร่
ส่วนแผนการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 จะตั้งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน จ.ขอนแก่น โดยจุดส่งของทั้งหมดจะอยู่ห่างกันไม่เกิน 30-40 กม.จากโรงงาน ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 70 ล้านบาท บนพื้นที่ทั้งหมด 28 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเขียนผังและรายละเอียดโรงงานเพื่อยื่นขออนุมัติการก่อสร้างจากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งใช้ระยะเวลาในการยื่นขอ 40-45 วัน คาดว่าโรงงานทั้ง 2 แห่ง จะดำเนินการสร้างเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2556
คุณวิทวัส กล่าวต่อถึงผลประกอบการในปี 2555 ที่ผ่านมาว่ามีรายได้ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2556 หากโรงงานก่อสร้างเสร็จและรวมยอดขายของคอนโดมิเนียมดีซิโอ้ จะทำให้เป้าผลประกอบการอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับยอดขายด้วยว่าจะขายได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตามการรับรู้รายได้ของโรงงานที่ จ.ขอนแก่นและโรงงานที่ จ.ระยอง จะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังเท่านั้นเนื่องจากหลังจากที่สร้างโรงงานเสร็จจะรับรู้รายได้เต็มๆ เมื่อลงเครื่องจักรทั้งหมดและเดินเครื่องกำลังผลิตเต็มที่ และคาดว่าจะรับรู้รายได้จริงๆ น่าจะประมาณปี 2557 ซึ่งต้องเดินเครื่องกำลังผลิตได้ 100% จึงจะสามารถประเมินรายรับที่เข้ามาได้รวมถึงในส่วนของรายได้ที่ลูกค้าออเดอร์มา ส่วนในปี 2557 คาดว่าผลประกอบการน่าจะเพิ่มเป็นประมาณ 1,500 ล้านบาท และจะเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2556-2558
“กลยุทธ์ที่จะผลักดันไปให้ถึงเป้าหมายจะเป็นในส่วนของสถานที่ตั้งของโรงงาน ซึ่งตนมองว่าตั้งอยู่ใกล้จุดการค้าที่ได้เปรียบคู่แข่งขัน รวมทั้งมีฐานลูกค้าเดิมที่มั่นคงอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายการขายออกไปโดยรอบในแถบที่ใกล้โรงงาน อาทิ สิงห์บุรี อ่างทอง เป็นต้น เพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคต” คุณวิทวัสกล่าว
ทั้งนี้ลูกค้าหลักส่วนใหญ่ของบริษัทจะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ และในส่วนของหน่วยงานราชการของภาครัฐที่มีการก่อสร้างอาคารในทุกปี อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กรมอาชีวศึกษา โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานราชการของภาครัฐจะมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างอาคารรองรับการเพิ่มขึ้นของบุคลากรในทุกๆ ปี แต่ในการก่อสร้างงานให้กับหน่วยงานของภาครัฐซึ่งจะมีเข้ามาทุกปี บริษัทจะพิจารณาก่อนเสมอว่าสถานที่ตั้งของลูกค้าต้องตั้งอยู่ในจุดที่ใกล้โรงงานเท่านั้น จึงจะดำเนินการให้เพื่อลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า
ส่วนการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC คุณวิทวัสกล่าวว่าส่งผลดีในด้านการเป็นพันธมิตรที่ดีในการแลกเปลี่ยนทางด้านการค้าและวัฒนธรรม โดยบริษัทมีการเตรียมแผนขยายพื้นที่ในการขายสินค้าในภาคอีสาน ซึ่งเป็นเขตพรมแดนที่จะสามารถต่อยอดขายสินค้าในประเทศลาวได้ ซึ่งเป็นการตีตลาดในวงกว้างออกไปได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อเปิด AEC ส่วนในประเทศพม่าเนื่องจากราคาที่ดินในประเทศพม่ายังมีราคาแพง ดังนั้นจึงยังไม่ได้เริ่มแผนธุรกิจเพิ่มเติม แต่มีการเตรียมพร้อมเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ลงทุนในพม่ากับบริษัท ไว้อย่างแน่นแฟ้นเพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต
คุณวิทวัส กล่าวถึงแนวโน้มของธุรกิจในปี 2556 ว่าโดยภาพรวมดีอย่างต่อเนื่องซึ่งโตตามอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ โดยมีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก ส่งผลให้ผลิตให้แทบไม่ทันเพราะมีโครงการก่อสร้างมากมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของประชากรที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และอนาคตส่งผลให้แนวโน้มธุรกิจน่าจะดีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
ส่วนนโยบายการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วันทั่วประเทศตามนโยบายของภาครัฐไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทเนื่องจากบริษัทมีการจ้างพนักงานเกิน 300 บาทอยู่แล้วแต่ที่กระทบกับบริษัทจะเป็นในส่วนของการขาดแคลนแรงงานมากกว่า เนื่องจากปัจจุบันแรงงานที่เข้ามาทำงานจะเป็นคนงานที่ไร้สัญชาติ เช่น กระเหรี่ยง และผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายแดน เป็นต้น ดังนั้นจึงนำมาเข้าในระบบแรงงานไม่ได้ ประกอบกับแรงงานจริงๆ ที่เป็นพม่ามีน้อยมากที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย
คุณวิทวัส กล่าวถึงสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนว่าจะเป็นในเรื่องภาษี โดยบริษัทใหญ่จะเสียภาษีอย่างตรงไปตรงมา แต่ยังมีบางบริษัทที่ยังแอบหลบเลี่ยงที่จะเสียภาษี ซึ่งตนมองว่าเป็นการไม่ยุติธรรมสำหรับบริษัทที่ปฎิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด จึงต้องการให้รัฐบาลจัดตั้งหน่วยงานในการตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งควบคุมดูแลให้ทุกบริษัทเสียภาษีโดยไม่เลือกปฎิบัติ
ส่วนสิ่งที่อยากฝากถึงลูกค้าของบริษัทจะเป็นในเรื่องสินค้า ที่บริษัทขายโดยจะเป็นในส่วนของโครงสร้างอาคาร ดังนั้นจึงอยากให้พิจารณาถึงคุณภาพมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดรวมถึงความปลอดภัยด้วย ซึ่งบริษัทได้มีการพัฒนาสินค้าผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานเป็นอย่างดี โดยมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
“อยากแนะนำผลิตภัณฑ์ล่าสุดของบริษัทโดยเป็นบล็อกรุ่นใหม่ ขนาดหนา 20x20x30 ซม. ทำให้ผนังบ้านหนา มีมิติบริเวณหน้าต่าง สวยหรูดั่งบ้านในแถบยุโรป และคำนึงถึงเรื่องสุขภาพของเจ้าของบ้าน เนื่องจากมีคุณสมบัติกันความชื้นได้สูงต่อต้านการเกิดเชื้อรา นอกจากนี้สินค้าของบริษัทจะเน้นด้านคุณภาพ การบริการ ที่ได้มาตรฐานในราคาที่เหมาะสมซึ่งสามารถการันตีคุณภาพและความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี เพราะเราใส่ใจทุกรายละเอียดและมีความจริงใจและตรงไปตรงมาต่อลูกค้า” คุณวิทวัสกล่าว
Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.
www.themewinter.comMake sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.