ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) เร่งขยายเฟสใหม่
ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) ขยายพื้นที่โครงการเฟส 2, 3 รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 20% พร้อมเปิดแผนรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE
คุณวะริดา แซ่อึ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) จำกัด ดำเนินธุรกิจแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชนกลางเมืองพัทยา ภายใต้ชื่อ “ตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา)” เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการขยายพื้นที่โครงการตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) เพิ่มจากเดิมอีก 2 เฟส ได้แก่เฟส 2 และ 3
ปัจจุบันเฟส 2 ได้เปิดใช้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา โดยตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ ซึ่งจะมีลักษณะที่ทันสมัยกว่าเฟสแรก เพราะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของตลาดริมน้ำมาเป็นอาคารปรับอากาศในบรรยากาศล้านนา ประกอบด้วย อาคารกฤษดาดอยและอาคารเพลินจิต สำหรับในส่วนของอาคารกฤษดาดอยจะมีศูนย์อาหารติดแอร์และเป็นอาคารไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่กลางน้ำ คาดว่าจะสามารถสร้างจุดขายและสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก
ส่วนเฟส 3 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้วว่า 70% เหลือเฉพาะการตกแต่งสถานที่ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2557 นี้ โดยเฟส 3 จะมีการพัฒนาในลักษณะของศูนย์เรียนรู้ ซึ่งในพื้นที่จะมีสวนสมุนไพร มีพื้นที่สำหรับการละเล่นและกิจกรรมวิถีไทย เพื่อสื่อให้ชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวได้ทราบถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้ง การจัดแสดงจุดการเรียนรู้วัฒนธรรมในเรื่องของ “เศรษฐกิจพอเพียง” ตามแนวพระราชดำริ
นอกจากนี้ยังพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียน โดยได้มีการร่วมมือกับโรงเรียนในเขตพื้นที่และเขตอื่นๆ จัดตั้งโครงการมัคคุเทศก์น้อย และเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียนมาใช้สถานที่ เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ด้านภาษากับเจ้าของภาษาโดยตรง เนื่องจากในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 3,000-5,000 คนที่เข้ามาท่องเที่ยวในตลาดน้ำ ซึ่งจะทำให้เด็กๆ สามารถสร้างประสบการณ์ตรง ได้ดูแลและเป็นมัคคุเทศน์ให้กับท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังได้เรียนภาษาจีนอีกด้วย
คุณวะริดากล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการขยายพื้นที่โครงการว่า เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินธุรกิจเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมและทัศนียภาพ เน้นในเรื่องของการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่งบริษัทได้เปิดสถานที่ท่องเที่ยวมากว่า 6 ปีและได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม บริษัทเล็งเห็นว่าน่าจะหากลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
“ปัจจุบัน เรามีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งคนไทยและคนจีน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าหลักอยู่แล้ว แต่เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าประเทศอื่นๆ ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและพัทยาที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เราจึงได้ริเริ่มที่ที่จะขยายพื้นที่ให้มากขึ้น ในอนาคตเรามุ่งที่จะเจาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเกาหลี, อินโดนีเซีย, รัสเซีย, ตะวันออกกลาง และมาเลเซีย มากขึ้น รวมทั้งพยายามที่จะปรับเฟส 3 ให้เข้ากับลักษณะของการท่องเที่ยวในแต่ละชาติด้วย” คุณวะริดากล่าว
ด้านเป้าผลประกอบการในปีนี้คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20% เนื่องจากสถานการณ์จะดีขึ้นกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้วยการยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าในบางประเทศ จึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปในช่วงต้นปี เริ่มกลับมาท่องเที่ยวเท่าเดิมและคาดว่าแนวโน้มน่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC คุณวะริดากล่าวว่า จะเป็นปัจจัยบวกให้กับประเทศและบริษัทเช่นกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE ที่คาดว่าจะเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นตลาดน้ำ 4 ภาค (พัทยา) จึงได้มีการรองรับในเรื่องของห้องประชุมที่สามารถจุคนได้ถึง 200 คน อีกทั้ง ในอนาคตยังมีแผนที่จะสร้างโรงแรม ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งในเรื่องของพาร์ทเนอร์และแนวคิดในการออกแบบที่ยังเน้นลักษณะความเป็นไทย