ฟอร์จูนพาร์ทเดินหน้าก่อสร้างสำนักงาน- Warehouse
ฟอร์จูนพาร์ททุ่ม 200 ลบ. เนรมิตสำนักงาน-Warehouse รุกตลาดเทรดดิ้งเต็มสูบ หนุนดันรายได้ปี 58 เพิ่มอีก 15-20% จากเป้ารายได้ปีนี้ 1,900 ลบ. ลั่นเตรียมขยายตลาดบุกสหรัฐอเมริกาชิงมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม
คุณสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูนพาร์ทอินดัสตรี้ จำกัด(มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างสำนักงานและ Warehouse โดยสำนักงานจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนกันยายนนี้ ส่วน Warehouse จะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
“อาคารสำนักงานแห่งใหม่จะใช้พื้นที่ในการก่อสร้างไม่มากนัก ประมาณ 200-300 ตารางวา ซึ่งเราสร้างเต็มพื้นที่ จะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร โดยเป็นอาคารสูง 3 ชั้นพร้อมกับโชว์รูม ซึ่งจะเน้นรองรับทีมงานมาร์เก็ตติ้งที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเทรดดิ้ง (ธุรกิจซื้อมาขายไป) มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเรามีสัดส่วนระหว่างการผลิตเองและเทรดดิ้งอยู่ที่ 59 : 41 ” คุณสมพลกล่าว
สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการก่อสร้างสำนักงานและ Warehouse จะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีแผนจะใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท โดยจะลงทุนเป็น 3 เฟส ซึ่งแบ่งเป็นเฟส 1 สำหรับการลงเครื่องจักรของโรงงาน D เฟส 2 จะลงทุนสำหรับสำนักงาน ส่วนเฟส 3 จะลงทุนในด้าน Warehouse แต่บริษัทมองว่าการลงทุนไม่จำเป็นต้องดำเนินการในครั้งเดียว ดังนั้นจึงแบ่งการลงทุนกระจายเป็น 3 ส่วน
ส่วนการติดตั้งเครื่องจักร บริษัทได้ดำเนินการแล้วตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยนำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50% ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและสามารถเดินเครื่องจักรได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมในปีเดียวกัน แต่ปัจจุบัน บริษัทใช้กำลังการผลิตเพียงแค่ 20% อย่างไรก็ตามหลังจากที่ Warehouse สร้างเสร็จ บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตอีก 30% หรือเต็มกำลัง
ด้านเป้ารายได้รวมในปีนี้ บริษัทตั้งไว้ที่ 1,900 ล้านบาท ส่วนในปีหน้า คาดว่าจะมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มอีกประมาณ15-20% จากปีนี้ โดยมีความมั่นใจว่าจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจาก บริษัทจะรุกธุรกิจเทรดดิ้งอย่างเต็มที่ในปีหน้า ประกอบกับมี Warehouse ที่จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ เพื่อรองรับออเดอร์จากลูกค้าได้อย่างเพียงพอ
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในประเทศ 13% และต่างประเทศ 87% โดยมาร์เก็ตแชร์หลักจะอยู่ที่ญี่ปุ่นและเกาหลี สำหรับในประเทศญี่ปุ่น บริษัทจะป้อนสินค้าให้แก่ค่ายรถยนต์เกือบทุกค่าย ไม่ว่าเป็น โตโยต้า, ฮอนด้า, นิสสัน, ซูซูกิ, อีซูซุ และมาสด้า เป็นต้น ส่วนลูกค้าในประเทศเกาหลี อาทิ ฮุนได, แดวู และเกีย รวมทั้ง ล่าสุด บริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดสหรัฐอเมริกาบ้างเล็กน้อย
“ในอนาคตประมาณ 1- 3 ปีข้างหน้า เรามีแผนที่จะรุกตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่ เพราะเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของโลก นอกเหนือจากตลาดตะวันออกกลางหรือแอฟริกาที่ได้เข้าไปทำตลาดมาก่อนแล้วหน้านี้ ส่วนตลาดยุโรป เนื่องจากรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นมีน้อยหรือประมาณ 3-5% ดังนั้นจึงยังไม่เข้าไปทำตลาด เพราะตลาดของเราจะขึ้นอยู่ค่ายรถยนต์ของญี่ปุ่นและเกาหลีเป็นเกณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่เอเชีย ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของเรา” คุณสมพลกล่าว