“พรอสเพค” ผุดโปรเจค BFTZ ย่านบางนา-ตราด
พรอสเพคเร่งขยายธุรกิจ เนรมิต “โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (Bangkok Free Trade Zone : BFTZ)” ย่านบางนา-ตราด บนพื้นที่ 1,000 ไร่ โชว์จุดเด่นสิทธิประโยชน์ด้านภาษีดึงดูดใจนักลงทุน แย้มแผนปีหน้าเตรียมก่อสร้างเพิ่ม 20,000-30,000 ตารางเมตร รับเศรษฐกิจฟื้นตัว
คุณพรศริน เมธีวัชรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนา และให้บริการโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (Bangkok Free Trade Zone : BFTZ) เปิดเผยว่า บริษัทได้รุกขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของอาคารโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่าย่านบางนา-ตราด โดยตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย
โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน มีพื้นที่จำนวน 1,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สาธารณูปโภคภายในโครงการ 300 ไร่ ที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และอีก 700 ไร่ เป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในรูปแบบอาคารโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่า โดยแบ่งเป็นเขตประกอบอุตสาหกรรมทั่วไป (General Zone) และเขตปลอดภาษีอากร (Free Zone) ปัจจุบันมีพื้นที่สร้างเสร็จพร้อมให้เช่ากว่า 130,000 ตารางเมตร และมีผู้ประกอบการมาเช่าพื้นที่อาคารโรงงานและคลังสินค้าแล้วมากกว่า 90%
ส่วนจุดเด่นของโครงการนี้ คือสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI, กรมศุลกากร และเขตพื้นที่สีม่วงที่ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล, ภาษีอากรนำเข้าและอากรส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้ามาเช่าพื้นที่โครงการเพื่อนำเข้าวัตถุดิบและผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้าในทำเลศักยภาพที่เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจสูงสุด
นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งของโครงการยังอยู่ในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์บนถนนบางนา-ตราด อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิเพียง 17 กิโลเมตร, ท่าเรือกรุงเทพ 23 กิโลเมตร, ท่าเรือแหลมฉบัง 90 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 60 นาที ซึ่งถือเป็นทำเลที่เหมาะแก่การเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ในการขนส่งและกระจายสินค้าทั้งในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลก
คุณพรศริน กล่าวต่อแผนการดำเนินงานว่า เนื่องจากตลอดปี 2557 บริษัทได้มีการวางแผนการดำเนินงานในการชะลอการลงทุนเพิ่ม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการวางแผนนี้ก็ได้ผลดีเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามในปี 2558 บริษัทมีแผนจะขยายการก่อสร้างอาคารโรงงานเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยทั้งจากกลุ่มนักลงทุนจากในและต่างประเทศ
“ปี 2557 เรามีการชะลอการก่อสร้าง โดยดำเนินการเพียง 10,000 ตารางเมตรเท่านั้นจากการก่อสร้างโรงงานขนาดกลาง ส่วนปีหน้าเราคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างเพิ่มประมาณ 20,000-30,000 ตารางเมตร เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการต่อการลงทุนดีขึ้น ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวที่ดี ซึ่งน่าจะเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน” คุณพรศรินกล่าว
คุณพรศริน กล่าวถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าว่า บริษัทมีบริษัท ฟินันซ่า จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำที่มีความเข้มแข็งและเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท จึงเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นด้านการเงินได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังมีทีมงานที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Generation) ที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ และมีพื้นฐานในการทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ ซึ่งจะสามารถตอบสนองต่อการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด
สำหรับสิ่งที่อยากจะฝากถึงภาครัฐ คุณพรศรินกล่าวว่า ตนพอใจนโยบายของภาครัฐในการต่อต้านคอร์รัปชั่น แต่อยากให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งอยากให้ภาครัฐมีการปรับปรุง แก้ไขขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่ขาดความเข้าใจในการดำเนินการ ก่อให้เกิดความล่าช้าในการอนุมัติการลงทุนต่างๆ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะประสบปัญหาในขั้นตอนนี้เป็นจำนวนมาก